1. ภาพรวม
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก (François de Klerkฟรองซัวส์ เดอ เคิร์กภาษาแอฟริคานส์) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อเล่นว่า ฟาฟ (Fafฟาฟภาษาอังกฤษ) เป็นนักรักบี้ยูเนียนมืออาชีพชาวแอฟริกาใต้ ผู้เล่นในตำแหน่งสกรัม-ฮาล์ฟ ปัจจุบันสังกัดสโมสรโยโกฮาม่า แคนนอน อีเกิลส์ ในลีกรักบี้วันของญี่ปุ่น และเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติแอฟริกาใต้ (สปริงบ็อกส์) เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติแอฟริกาใต้ที่คว้าแชมป์รักบี้เวิลด์คัพได้ถึงสองสมัย ในปี 2019 และ 2023 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นในอาชีพของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก มีพื้นเพมาจากเมืองเนลสไปรต์ (ปัจจุบันคือ เอ็มบอมเบลา) ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพนักรักบี้ของเขา
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
เดอ เคิร์ก เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2534 ที่เมืองเนลสไปรต์ (ปัจจุบันคือ เอ็มบอมเบลา) ในจังหวัด เอ็มพูมาลังกา ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเริ่มเล่นรักบี้ตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนประถมลาร์สคูล บาร์กแลนด์ (Larschool Barkland) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้สัมผัสกับกีฬานี้เป็นครั้งแรก
2.2. การศึกษา
หลังจากนั้น เดอ เคิร์ก ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมโฮเออร์สคูล วอเตอร์คลูฟ (Hoërskool Waterkloofโฮเออร์สคูล วอเตอร์คลูฟภาษาแอฟริคานส์) ในเมืองพริทอเรีย ซึ่งเป็นสถาบันที่เขามุ่งมั่นกับการเล่นรักบี้อย่างจริงจัง และพัฒนาทักษะของตนเองในกีฬาชนิดนี้
3. อาชีพสโมสร
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก ได้สร้างเส้นทางอาชีพในระดับสโมสรที่หลากหลาย ทั้งในแอฟริกาใต้ อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละช่วงเวลาล้วนมีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมเขาให้เป็นนักรักบี้ระดับโลก
3.1. พูมาส์
เดอ เคิร์ก เริ่มต้นอาชีพนักรักบี้อาชีพกับทีมพูมาส์ (Pumasพูมาส์ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นทีมรักบี้ในระดับเคอร์รี คัพ (Currie Cup) ของแอฟริกาใต้ เขาเล่นให้กับทีมพูมาส์เป็นเวลาสามปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ถึง พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาฝีมือในระดับอาชีพ
3.2. ไลออนส์
ในปี พ.ศ. 2557 เดอ เคิร์ก ได้ย้ายมาร่วมทีมไลออนส์ (Lionsไลออนส์ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นทีมในรายการซูเปอร์รักบี้ (Super Rugby) โดยเขาประเดิมสนามให้กับไลออนส์ในเกมที่เอาชนะทีมชีตาห์ส (Cheetahs) ไปด้วยคะแนน 21-20 ที่เมืองบลูมฟอนเทน (Bloemfontein) เขาเล่นให้กับทีมไลออนส์จนถึงปี พ.ศ. 2560
3.3. โกลเดน ไลออนส์
ในระหว่างที่เล่นให้กับทีมไลออนส์ เดอ เคิร์ก ยังได้มีส่วนร่วมกับทีมโกลเดน ไลออนส์ (Golden Lionsโกลเดน ไลออนส์ภาษาอังกฤษ) ในการแข่งขันเคอร์รี คัพ (Currie Cup) ซึ่งเป็นรายการแข่งขันรักบี้ภายในประเทศแอฟริกาใต้ โดยเขาเข้าร่วมทีมโกลเดน ไลออนส์ ในปี พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2560
3.4. เซล ชาร์กส์
ก่อนฤดูกาล พ.ศ. 2560-พ.ศ. 2561 เดอ เคิร์ก ได้ย้ายไปร่วมทีมเซล ชาร์กส์ (Sale Sharksเซล ชาร์กส์ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นสโมสรในพรีเมียร์ชิพ รักบี้ (English Premiership) ของอังกฤษ โดยเซ็นสัญญาเป็นเวลาสามปี ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 สโมสรได้ประกาศว่า เดอ เคิร์ก ได้ต่อสัญญาออกไปจนถึงปี พ.ศ. 2566 เขาใช้เวลาสี่ฤดูกาลกับเซล ชาร์กส์ ก่อนที่จะประกาศในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ว่าจะออกจากสโมสรเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล พ.ศ. 2564-พ.ศ. 2565
3.5. โยโกฮาม่า แคนนอน อีเกิลส์
หลังจากออกจากเซล ชาร์กส์ เดอ เคิร์ก ได้ย้ายไปร่วมทีมโยโกฮาม่า แคนนอน อีเกิลส์ (Yokohama Canon Eaglesโยโกฮาม่า แคนนอน อีเกิลส์ภาษาอังกฤษ) ในลีกรักบี้วัน (Japan Rugby League One) ของญี่ปุ่น โดยเขาประเดิมสนามอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในการแข่งขันลีกรักบี้วันนัดแรกของฤดูกาล พ.ศ. 2565-พ.ศ. 2566 โดยลงสนามในฐานะตัวสำรองในเกมที่พบกับทีมโคเบลโก้ โกเบ สตีลเลอร์ส (Kobelco Kobe Steelers)
4. อาชีพทีมชาติ
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก มีบทบาทสำคัญในทีมชาติแอฟริกาใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สปริงบ็อกส์ (Springboks) สร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ
4.1. การประเดิมสนามและอาชีพช่วงต้นกับสปริงบ็อกส์
เดอ เคิร์ก ได้รับโอกาสติดทีมชาติแอฟริกาใต้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 ภายใต้การคุมทีมของโค้ช อัลลิสเตอร์ คุตซี (Allister Coetzee) โดยเขาถูกเรียกตัวติดทีม 31 คนสำหรับการแข่งขันเทสต์แมตช์ 3 นัดกับทีมชาติไอร์แลนด์ และได้ประเดิมสนามในฐานะตัวจริงในตำแหน่งสกรัม-ฮาล์ฟ ในเทสต์แรกที่สนามนิวแลนด์ส สเตเดียม (Newlands Stadium) แม้ไอร์แลนด์จะชนะเทสต์แรกไป 26-20 แต่สปริงบ็อกส์ก็สามารถกลับมาคว้าชัยชนะในซีรีส์ได้ โดยชนะ 32-26 ที่โจฮันเนสเบิร์ก และ 19-13 ที่พอร์ตเอลิซาเบท
หลังจากเซ็นสัญญากับเซล ชาร์กส์ในปี พ.ศ. 2560 เดอ เคิร์ก ไม่สามารถเป็นตัวแทนของสปริงบ็อกส์ได้เนื่องจากมีจำนวนแคป (การลงสนามในนามทีมชาติ) ไม่ถึง 30 แคป อย่างไรก็ตาม หลังจากเกณฑ์การคัดเลือกนี้ถูกยกเลิกไปในปี พ.ศ. 2561 โค้ชสปริงบ็อกส์คนใหม่ รัสซี เอราสมุส (Rassie Erasmus) ได้เรียกตัว เดอ เคิร์ก กลับมาร่วมทีมอีกครั้งสำหรับการแข่งขันเทสต์แมตช์ 3 นัดกับทีมชาติอังกฤษในปี พ.ศ. 2561
4.2. การคว้าแชมป์เวิลด์คัพ
เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติแอฟริกาใต้ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน รักบี้แชมเปียนชิป 2019 และได้รับเลือกให้เข้าร่วมรักบี้เวิลด์คัพ 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมกับทีมชาติญี่ปุ่น เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน (Player of the Match) โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในเกมรุกและเกมรับ และยังทำทราย (คะแนน) ได้ด้วยตนเองในนาทีที่ 66 ของการแข่งขัน ซึ่งสปริงบ็อกส์ชนะไป 26-3 เขาเป็นผู้เล่นหลักในการคว้าแชมป์เวิลด์คัพของแอฟริกาใต้ โดยเป็นสกรัม-ฮาล์ฟตัวจริงในรอบแบ่งกลุ่มสองนัด และในเกมรอบเพลย์ออฟทั้งหมด
เดอ เคิร์ก ยังคงเป็นสกรัม-ฮาล์ฟตัวจริงในการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพ 2019 นัดชิงชนะเลิศกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งแอฟริกาใต้เอาชนะไปได้ 32-12 คว้าถ้วยเวบบ์ เอลลิสสมัยที่สามมาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติแอฟริกาใต้ที่คว้าแชมป์รักบี้เวิลด์คัพเป็นครั้งที่สองติดต่อกันในปี 2023
4.3. การทำคะแนนสำคัญ
นี่คือรายการทราย (คะแนน) ที่ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก ทำได้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ:
ทราย | ทีมคู่แข่ง | สถานที่ | สนาม | รายการแข่งขัน | วันที่ | ผลการแข่งขัน | คะแนน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | อังกฤษ | โจฮันเนสเบิร์ก, ประเทศแอฟริกาใต้ | เอลลิส พาร์ก สเตเดียม | ทัวร์อังกฤษในแอฟริกาใต้ 2018 | 9 มิถุนายน พ.ศ. 2561 | ชนะ | 42 - 39 |
2 | อาร์เจนตินา | เดอร์บัน, ประเทศแอฟริกาใต้ | คิงส์ พาร์ก สเตเดียม | รักบี้แชมเปียนชิป 2018 | 18 สิงหาคม พ.ศ. 2561 | ชนะ | 34 - 21 |
3 | ออสเตรเลีย | พอร์ตเอลิซาเบท, ประเทศแอฟริกาใต้ | เนลสัน แมนเดลา เบย์ สเตเดียม | รักบี้แชมเปียนชิป 2018 | 29 กันยายน พ.ศ. 2561 | ชนะ | 23 - 12 |
4 | ญี่ปุ่น | โชฟุ, ประเทศญี่ปุ่น | โตเกียว สเตเดียม | รักบี้เวิลด์คัพ 2019 | 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562 | ชนะ | 3 - 26 |
5 | บริติช แอนด์ ไอริช ไลออนส์ | เคปทาวน์, ประเทศแอฟริกาใต้ | เคปทาวน์ สเตเดียม | ทัวร์บริติช แอนด์ ไอริช ไลออนส์ในแอฟริกาใต้ 2021 | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 | แพ้ | 17 - 22 |
5. รางวัลและการประเมินผล
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก ได้รับการยกย่องและรางวัลมากมายตลอดอาชีพนักรักบี้ ทั้งในระดับส่วนบุคคลและในฐานะสมาชิกของทีมที่ประสบความสำเร็จ
5.1. รางวัลส่วนบุคคล
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน (Man of the Match) ในการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพ 2019 รอบก่อนรองชนะเลิศกับทีมชาติญี่ปุ่น
- ติดทีมยอดเยี่ยมประจำลีกรักบี้วัน ฤดูกาล พ.ศ. 2565-พ.ศ. 2566 ในตำแหน่งสกรัม-ฮาล์ฟ
5.2. แชมป์ทีม
- แชมป์รักบี้แชมเปียนชิป (2019) กับทีมชาติแอฟริกาใต้
- แชมป์รักบี้เวิลด์คัพ (2019) กับทีมชาติแอฟริกาใต้
- แชมป์รักบี้เวิลด์คัพ (2023) กับทีมชาติแอฟริกาใต้
6. อิทธิพลและสไตล์การเล่น
ฟรองซัวส์ เดอ เคิร์ก เป็นที่รู้จักจากสไตล์การเล่นที่โดดเด่นและมีพลังในตำแหน่งสกรัม-ฮาล์ฟ เขามีบทบาทสำคัญในการกำหนดจังหวะการเล่นของทีม ด้วยการจ่ายบอลที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงการตัดสินใจที่เฉียบคมในการเลือกเล่นลูกเตะหรือการวิ่งทะลวง
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูง มีความสามารถในการเคลื่อนที่และตั้งรับได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยปิดกั้นการรุกของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การประสานงานของเขากับผู้เล่นในตำแหน่งสแตนด์-ออฟอย่าง ฮันเดร พอลลาร์ด (Handré Pollard) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์เกมรุกของทีมชาติแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพที่ทีมคว้าแชมป์ได้ถึงสองสมัย สไตล์การเล่นของเขาไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อผลการแข่งขัน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักรักบี้รุ่นใหม่และยกระดับมาตรฐานการเล่นในตำแหน่งสกรัม-ฮาล์ฟอีกด้วย