1. ภาพรวม
โจอี้ เมเนเซส รามิเรซ (เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1992) เป็นนักเบสบอลอาชีพชาวเม็กซิโก ผู้เล่นตำแหน่งฐานแรกและปีกนอกในสังกัดองค์กรนิวยอร์ก เมตส์ ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นในเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) ให้กับทีมวอชิงตัน เนชันแนลส์ และในเบสบอลอาชีพญี่ปุ่น (NPB) ให้กับทีมโอริกซ์ บัฟฟาโลส์ เมเนเซสประเดิมสนามใน MLB เมื่อปี ค.ศ. 2022 โดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการปรับตัวหลังจากเผชิญกับความท้าทายในอาชีพ รวมถึงข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสารกระตุ้น
2. ชีวิตช่วงต้น
โจอี้ เมเนเซส รามิเรซ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 ที่ประเทศเม็กซิโก รายละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังวัยเด็กและการเติบโตของเขาไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนัก แต่เขามีความสนใจในกีฬาเบสบอลมาตั้งแต่ยังเด็กและเริ่มพัฒนาทักษะเพื่อก้าวเข้าสู่วงการเบสบอลอาชีพ
3. อาชีพนักเบสบอลอาชีพ
โจอี้ เมเนเซสได้สร้างอาชีพนักเบสบอลที่ยาวนานและหลากหลาย ทั้งในระบบไมเนอร์ลีกของเมเจอร์ลีกเบสบอล, เบสบอลอาชีพญี่ปุ่น และในที่สุดก็ขึ้นสู่เมเจอร์ลีกเบสบอลในท้ายที่สุด
3.1. เบสบอลไมเนอร์ลีก
เมเนเซสเริ่มต้นอาชีพของเขาในระบบไมเนอร์ลีก โดยเล่นให้กับทีมฟาร์มทีมหลายแห่งของแอตแลนตา เบรฟส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ถึง ค.ศ. 2017 หลังจากฤดูกาล 2013, 2014 และ 2015 เขาได้เล่นให้กับทีมโทมาเตรอส เด กูลีอาคัน ในเม็กซิกันแปซิฟิกลีก (LMP) ในปี ค.ศ. 2016 เมเนเซสก้าวขึ้นสู่ระดับ ดับเบิลเอ เป็นครั้งแรกกับทีมมิสซิสซิปปี เบรฟส์
ในฤดูกาล 2017 กับมิสซิสซิปปี เขาทำค่าเฉลี่ยการตีได้ .292 พร้อมกับ โฮมรัน 9 ลูก และ RBI 45 ครั้ง ใน 108 เกม เขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นออลสตาร์กลางฤดูกาลของซัทเทิร์นลีก (Southern League) ด้วย เมเนเซสได้รับการเสนอชื่อให้เป็น MILB.com Organization All Star ในปี 2014 และ 2017 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เมเนเซสกลายเป็นผู้เล่นอิสระ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ฟิลาเดลเฟีย ฟิลลีส์ ได้เซ็นสัญญากับเมเนเซสในระดับไมเนอร์ลีก เขาใช้เวลาในฤดูกาล 2018 กับทีมเลไฮ วัลเลย์ ไอรอนพิกส์ ซึ่งเป็นทีมในระดับ ทริปเปิลเอ เขาสามารถคว้ารางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่าอินเตอร์เนชันแนลลีก (International League MVP) ประจำปี 2018 ด้วยค่าเฉลี่ยการตี .311 พร้อมโฮมรัน 23 ลูก และ 82 RBI ใน 130 เกม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เมเนเซสถูกฟิลลีส์ปล่อยตัว
ในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 2020 เมเนเซสเซ็นสัญญาไมเนอร์ลีกกับทีมบอสตัน เรดซอกซ์ หลังจากที่ฤดูกาลไมเนอร์ลีก 2020 ถูกยกเลิก เขาก็ถูกเรดซอกซ์เซ็นสัญญาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนเพื่อเล่นในระดับไมเนอร์ลีก เขาถูกส่งไปยังทีมพอร์ตแลนด์ ซี ด็อกส์ ในระดับ ดับเบิลเอ เพื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2021 และได้รับการเลื่อนชั้นสู่ทีมวอร์เซสเตอร์ เรดซอกซ์ ในระดับ ทริปเปิลเอ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เขาตัดสินใจเป็นผู้เล่นอิสระอีกครั้งหลังจบฤดูกาลเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
3.2. เบสบอลอาชีพญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เมเนเซสได้เซ็นสัญญาหนึ่งปีมูลค่าประมาณ 100.00 M JPY ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 950.00 K USD กับทีมโอริกซ์ บัฟฟาโลส์ ในเบสบอลอาชีพญี่ปุ่น (NPB) เขาประเดิมสนามใน NPB เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2019
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2019 เมเนเซสถูกระงับการเล่นเป็นเวลา 12 เดือน หลังจากตรวจพบสารต้องห้ามประเภทไฮดรอกซีสตาโนโซลอล (hydroxystanozolol) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญในอาชีพของเขา ในวันเดียวกันนั้น เขาก็กลายเป็นผู้เล่นอิสระ
3.3. เมเจอร์ลีกเบสบอล
หลังจากประสบความสำเร็จในไมเนอร์ลีกและการเผชิญหน้ากับความท้าทายในญี่ปุ่น โจอี้ เมเนเซสก็มีโอกาสประเดิมสนามในเมเจอร์ลีกเบสบอล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอาชีพนักเบสบอลของเขา
3.3.1. วอชิงตัน เนชันแนลส์
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2022 เมเนเซสเซ็นสัญญาไมเนอร์ลีกกับทีมวอชิงตัน เนชันแนลส์ ในวันที่ 2 สิงหาคม หลังจากที่เนชันแนลส์เทรดผู้เล่นอย่าง ฮวน โซโต และ จอช เบลล์ ไปยังทีมซานดีเอโก พาดเรส ทีมเนชันแนลส์ได้เรียกตัวเมเนเซสจากทีมโรเชสเตอร์ เรด วิงส์ ซึ่งเป็นทีมในระดับทริปเปิลเอ ขึ้นมาสู่ทีมหลัก และเขาได้ประเดิมสนามในเมเจอร์ลีกกับทีมนิวยอร์ก เมตส์ เมเนเซสสามารถตีโฮมรันได้จาก โยอัน โลเปซ เพื่อนำทีมในอินนิงที่เจ็ด ซึ่งเป็นการตีลูกแรกของเขาในเมเจอร์ลีก
เมเนเซสทำสถิติ 0-for-4 ในเกมถัดมา แต่หลังจากนั้นเขาก็ทำสถิติ ตีลูกติดกัน 11 เกม และยังคงตีได้ดีตลอดเดือนสิงหาคม โดยมีสแลชไลน์ (slash line) ที่ .354/.385/.626 และตีโฮมรันได้ 7 ลูก ใน 25 เกมแรกของเขาในเมเจอร์ลีก
เมื่อวันที่ 1 กันยายน เมเนเซสตีวอล์กออฟโฮมรัน (walk-off home run) กับทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ซึ่งทำให้เนชันแนลส์ชนะเกมวอล์กออฟเป็นครั้งแรกในปีนั้น ในวันที่ 16 กันยายน ในขณะที่เนชันแนลส์ตามหลังไมอามี มาร์ลินส์ อยู่ 4-0 เมเนเซสก็ตีอินไซด์-เดอะ-พาร์ค โฮมรัน (inside-the-park home run) และทำคะแนนให้ทีมได้ในภายหลัง ทำให้วอชิงตันชนะ 5-4
เขาจบฤดูกาลด้วยค่าเฉลี่ยการตี .324 พร้อมเปอร์เซ็นต์การเข้าสู่เบส .367 เปอร์เซ็นต์การตีได้รัน .563 โฮมรัน 13 ลูก และ 34 RBI เมเนเซสได้รับการเสนอชื่อให้ติดทีม MLB Pipeline All-Rookie Team
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2024 ทีมเนชันแนลส์ได้ลดระดับเมเนเซสกลับไปเล่นในระดับทริปเปิลเอหลังจากที่เขาประสบปัญหาฟอร์มตก ใน 76 เกมที่เล่นให้กับวอชิงตัน เขามีสแลชไลน์ที่ .231/.291/.302 พร้อมโฮมรัน 3 ลูก และ 42 RBI เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน เมเนเซสถูกถอดออกจากรายชื่อ 40 คน และถูกส่งไปยังโรเชสเตอร์โดยตรง แต่เขาปฏิเสธการส่งตัวและเลือกที่จะเป็นผู้เล่นอิสระ
3.3.2. นิวยอร์ก เมตส์
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 เมเนเซสได้เซ็นสัญญาไมเนอร์ลีกกับทีมนิวยอร์ก เมตส์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นบทบาทใหม่ในอาชีพของเขา และเป็นโอกาสในการสร้างผลงานในอนาคตกับทีมใหม่
4. อาชีพนานาชาติ
โจอี้ เมเนเซสได้เป็นตัวแทนของเม็กซิโกในการแข่งขันเบสบอลระดับนานาชาติหลายรายการ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและการมีส่วนร่วมในวงการเบสบอลของประเทศ
4.1. แคริบเบียนซีรีส์
เมเนเซสได้เป็นตัวแทนของเม็กซิโกในการแข่งขันแคริบเบียนซีรีส์หลายครั้ง ได้แก่ปี 2015, 2018, 2020, 2021 และ 2022
4.2. เวิลด์เบสบอลคลาสสิกและโอลิมปิก
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 เมเนเซสได้รับเลือกให้ติดทีมชาติเม็กซิโกเพื่อลงเล่นเกมอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น
เมเนเซสได้รับเลือกเข้าสู่ทีมชาติเป็นครั้งที่สองเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 (ซึ่งจัดขึ้นจริงในปี ค.ศ. 2021) ที่โตเกียว
ในปี ค.ศ. 2023 เมเนเซสเล่นให้กับเม็กซิโกในการแข่งขันเวิลด์เบสบอลคลาสสิก โดยตีโฮมรันสองลูกในเกมกับสหรัฐอเมริกาในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำคะแนนในระดับสูง
5. รางวัลและเกียรติยศ
โจอี้ เมเนเซสได้รับรางวัลและเกียรติยศที่สำคัญตลอดอาชีพการงานของเขา ได้แก่:
- ผู้เล่นออลสตาร์กลางฤดูกาลของซัทเทิร์นลีก (Southern League) (ปี 2017)
- MILB.com Organization All Star (ปี 2014 และ 2017)
- ผู้เล่นทรงคุณค่าอินเตอร์เนชันแนลลีก (International League MVP) (ปี 2018)
- MLB Pipeline All-Rookie Team (ปี 2022)
6. ชีวิตส่วนตัว
เมเนเซสมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เขาหมั้นหมายกับมิตซี่ กุซมัน (Mitzy Guzman) และทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ โจเซฟ (Joseph) นอกจากนี้ เมเนเซสยังเคยกล่าวว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของตัวละคร โกคู จากดราก้อนบอล และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมทีมญี่ปุ่น
7. การประเมินและข้อถกเถียง
อาชีพของโจอี้ เมเนเซสเป็นบทพิสูจน์ถึงความอุตสาหะและการปรับตัว แต่ก็มีช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อถกเถียงเกี่ยวกับสารกระตุ้น
7.1. ข้อถกเถียงเรื่องสารกระตุ้น
ในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ในระหว่างที่เมเนเซสเล่นให้กับทีมโอริกซ์ บัฟฟาโลส์ในเบสบอลอาชีพญี่ปุ่น เขาถูกระงับการเล่นเป็นเวลา 12 เดือน หลังจากตรวจพบสารต้องห้ามประเภทไฮดรอกซีสตาโนโซลอล (hydroxystanozolol) ซึ่งเป็นสเตอรอยด์อะนาบอลิกที่อยู่ในรายชื่อสารต้องห้ามสำหรับนักกีฬา เหตุการณ์นี้ทำให้สัญญาของเขากับทีมโอริกซ์ บัฟฟาโลส์สิ้นสุดลงทันทีและเขากลายเป็นผู้เล่นอิสระ
ข้อถกเถียงเรื่องสารกระตุ้นเป็นประเด็นสำคัญที่มักเกิดขึ้นในวงการกีฬาเบสบอล และการที่เมเนเซสถูกตรวจพบสารต้องห้ามทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของเกมและสปิริตของนักกีฬา แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่ออาชีพของเขาในญี่ปุ่นอย่างมาก แต่เมเนเซสก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้งและประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นในเมเจอร์ลีกเบสบอลในเวลาต่อมา
8. มรดก
มรดกของโจอี้ เมเนเซสในวงการเบสบอลส่วนหนึ่งคือเรื่องราวของความมุ่งมั่นและการพิสูจน์ตัวเอง เขาเป็นตัวอย่างของนักกีฬาที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในไมเนอร์ลีกเป็นเวลาหลายปี และต้องเผชิญกับข้อถกเถียงเรื่องสารกระตุ้น แต่ในที่สุดก็สามารถประเดิมสนามในเมเจอร์ลีกเบสบอลได้ในวัย 30 ปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างช้าสำหรับนักกีฬาเบสบอลอาชีพ

ความสำเร็จของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวอชิงตัน เนชันแนลส์ในปี 2022 ที่เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีผลงานโดดเด่นอย่างรวดเร็ว ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาคนอื่น ๆ ที่กำลังพยายามในระดับไมเนอร์ลีกว่าความอุตสาหะและโอกาสสามารถนำไปสู่ความสำเร็จสูงสุดได้เสมอ นอกจากนี้ การเป็นตัวแทนของเม็กซิโกในการแข่งขันระดับนานาชาติยังตอกย้ำถึงบทบาทของเขาในฐานะตัวแทนของประเทศและเป็นแรงผลักดันให้กับการพัฒนาเบสบอลในเม็กซิโกด้วย
แม้ว่าอาชีพของเขาจะถูกขัดจังหวะด้วยข้อถกเถียงเรื่องสารกระตุ้น แต่การกลับมาและผลงานที่น่าประทับใจในเมเจอร์ลีกแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของมนุษย์และความสามารถในการก้าวข้ามอุปสรรค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้กับวงการเบสบอล