1. ภาพรวม
เอริช เซลเลอร์ (Erich Zeller) เกิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1920 ณ เมืองเอาคส์บวร์ค รัฐบาวาเรีย ในสาธารณรัฐไวมาร์ และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ณ เมืองการ์มิช-พาร์เทนเคียร์เชิน รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เขาเป็นทั้งนักสเกตลีลาและโค้ชสเกตลีลาชาวเยอรมัน ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในวงการสเกตลีลาทั้งในฐานะนักกีฬาที่คว้าแชมป์เยอรมันในปี ค.ศ. 1942 และในฐานะโค้ชที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเยอรมนีตะวันตก แม้ว่าอาชีพนักสเกตลีลาของเขาจะถูกขัดจังหวะและทำลายลงอย่างสิ้นเชิงโดยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เขากลับผันตัวมาเป็นโค้ชและสร้างผลงานอันโดดเด่นให้กับนักกีฬามากมาย
2. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพนักสเกต
เอริช เซลเลอร์เกิดที่เมืองเอาคส์บวร์ค รัฐบาวาเรีย ได้รับการศึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล และประสบความสำเร็จเป็นแชมป์เยอรมันในปี ค.ศ. 1942 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะทำให้เส้นทางอาชีพนักสเกตของเขาต้องหยุดชะงักลง เขาได้เข้าร่วมการแสดงไอซ์โชว์หลังสงครามสิ้นสุดลง
2.1. การเกิดและภูมิหลัง
เอริช เซลเลอร์เกิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1920 ที่เมืองเอาคส์บวร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรียของสาธารณรัฐไวมาร์ในขณะนั้น ภูมิหลังของเขาสะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์เยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
2.2. การศึกษาและชีวิตช่วงต้น
ในระหว่างการใช้ชีวิตช่วงต้น เอริช เซลเลอร์ได้ศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกเหนือจากความสามารถทางกีฬาที่โดดเด่น
2.3. อาชีพนักสเกตสมัครเล่น
ในฐานะนักสเกตลีลา เอริช เซลเลอร์เป็นตัวแทนของสโมสรโรต-ไวซ์-เบอร์ลิน และสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์เยอรมันได้ในปี ค.ศ. 1942 ความสำเร็จนี้ถือเป็นจุดสูงสุดในอาชีพนักสเกตสมัครเล่นของเขา
2.4. ผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่สอง
เส้นทางอาชีพนักสเกตลีลาของเอริช เซลเลอร์ต้องหยุดชะงักลงและถูกทำลายโดยสิ้นเชิงจากสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1942 เขาถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมกองทัพเยอรมัน ซึ่งเป็นการยุติบทบาทในฐานะนักกีฬาอย่างกะทันหัน
2.5. กิจกรรมหลังสงคราม
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1945 เอริช เซลเลอร์ได้กลับมามีส่วนร่วมในวงการสเกตลีลาอีกครั้ง โดยเขาได้เข้าร่วมการแสดงไอซ์โชว์ ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับมาสู่โลกแห่งน้ำแข็งของเขาอีกครั้ง
3. อาชีพโค้ช
ภายหลังจากการสิ้นสุดอาชีพนักกีฬา เอริช เซลเลอร์ได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะโค้ชสเกตลีลา ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จอย่างกว้างขวางให้กับเขา
3.1. การเริ่มต้นโค้ช
อาชีพโค้ชของเอริช เซลเลอร์เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1956 และลูกศิษย์คนแรกของเขาคือฮันส์-เยือร์เกิน เบาม์เลอร์ (Hans-Jürgen Bäumler) ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นนักสเกตลีลาที่มีชื่อเสียง
3.2. ลูกศิษย์คนสำคัญ
เอริช เซลเลอร์กลายเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเยอรมนีตะวันตก ลูกศิษย์คนสำคัญของเขาหลายคนประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับนานาชาติ ได้แก่ มาริกา คีลีอุส (Marika Kilius), ดาคมาร์ ลูร์ซ (Dagmar Lurz), และนอร์แบร์ท ชรัมม์ (Norbert Schramm)
3.3. บทบาทโค้ชทีมชาติและผู้นำ
นอกจากบทบาทโค้ชส่วนตัวแล้ว เขายังดำรงตำแหน่งเป็นโค้ชทีมชาติสเกตลีลาของเยอรมนีตะวันตก (Eiskunstlauf-Bundestrainerไอซ์คุนสท์เลาฟ์-บุนเดสเทรเนอร์ภาษาเยอรมัน) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ถึง ค.ศ. 1985 นอกจากนี้ เขายังเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมโค้ชโลก (world coach association) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทความเป็นผู้นำและการได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
4. ผลงานตีพิมพ์
เอริช เซลเลอร์ได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านสเกตลีลาของเขาผ่านผลงานตีพิมพ์ที่เป็นหนังสือสองเล่มดังนี้:
- Meine kleine Eiskunstlaufschuleโรงเรียนสเกตลีลาเล็ก ๆ ของฉันภาษาเยอรมัน ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1969
- Eiskunstlauf für Fortgeschritteneสเกตลีลาสำหรับผู้ที่ก้าวหน้าภาษาเยอรมัน ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1982
5. ผลการแข่งขันที่สำคัญ
ตารางด้านล่างแสดงผลการแข่งขันสเกตลีลาอย่างเป็นทางการในช่วงที่เอริช เซลเลอร์ยังคงเป็นนักกีฬา:
รายการ | 1941 | 1942 |
---|---|---|
การแข่งขันชิงแชมป์เยอรมัน | อันดับ 5 | อันดับ 1 |
6. การเสียชีวิต
เอริช เซลเลอร์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ที่เมืองการ์มิช-พาร์เทนเคียร์เชิน รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี
7. มรดก
เอริช เซลเลอร์ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ให้กับวงการสเกตลีลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะโค้ช เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเยอรมนีตะวันตก และได้สร้างนักกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน อาทิ ฮันส์-เยือร์เกิน เบาม์เลอร์, มาริกา คีลีอุส, ดาคมาร์ ลูร์ซ, และนอร์แบร์ท ชรัมม์ นอกจากนี้ บทบาทของเขาในฐานะโค้ชทีมชาติและการเป็นประธานสมาคมโค้ชโลกยังตอกย้ำถึงอิทธิพลอันกว้างขวางของเขาต่อการพัฒนาวงการสเกตลีลา ทั้งในประเทศเยอรมนีและบนเวทีระหว่างประเทศ หนังสือที่เขาเขียนก็ยังคงเป็นแหล่งความรู้และแนวทางสำหรับนักสเกตและโค้ชรุ่นหลังต่อไป