1. ภาพรวม

เคานต์คาร์ล กุสตาฟ บลูมฟิลด์ เอริก ฟอน โรเซน (2 มิถุนายน ค.ศ. 1879 - 25 เมษายน ค.ศ. 1948) เป็นบุคคลสำคัญชาวสวีเดนผู้มีบทบาทหลากหลาย ทั้งในฐานะนักสำรวจ นักชาติพันธุ์วรรณนา ผู้อุปถัมภ์ และเป็นบุคคลชั้นสูงที่มีอิทธิพลในสังคมสวีเดน นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำคนสำคัญในขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติของสวีเดนในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นความเชื่อมโยงที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมากเกี่ยวกับมรดกของเขา
ฟอน โรเซนเป็นที่รู้จักจากการนำสัญลักษณ์ สวัสดิกะ มาใช้เป็นเครื่องหมายส่วนตัว โดยเชื่อว่าเป็นเครื่องรางนำโชคของชาวไวกิ้ง ก่อนที่สัญลักษณ์นี้จะถูกนำไปใช้โดย พรรคนาซี เยอรมัน ความเชื่อมโยงของเขากับสวัสดิกะยังปรากฏชัดในการบริจาคเครื่องบินลำแรกให้กับ กองทัพอากาศฟินแลนด์ ในปี ค.ศ. 1918 ซึ่งนำไปสู่การที่กองทัพอากาศฟินแลนด์ใช้สวัสดิกะสีน้ำเงินเป็นตราสัญลักษณ์ประจำชาติในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับ แฮร์มันน์ เกอริง และบทบาทของเขาในขบวนการนาซีสวีเดน ทำให้ชีวิตและกิจกรรมของฟอน โรเซนถูกประเมินและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของ ประชาธิปไตย และ สิทธิมนุษยชน
2. ชีวิต
คาร์ล กุสตาฟ บลูมฟิลด์ เอริก ฟอน โรเซน มีชีวิตส่วนตัวที่เชื่อมโยงกับชนชั้นสูงของสวีเดนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสำรวจและสังคมในช่วงต้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของบทบาทที่หลากหลายในชีวิตของเขา
2.1. ภูมิหลังการเกิดและครอบครัว
เคานต์คาร์ล กุสตาฟ บลูมฟิลด์ เอริก ฟอน โรเซน เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1879 ที่ สต็อกโฮล์ม ประเทศ สวีเดน และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1948 ที่สเกปส์โฮล์เมน ในสต็อกโฮล์มเช่นกัน บิดาของเขาคือ เคานต์คาร์ล กุสตาฟ ฟอน โรเซน ส่วนมารดาคือ เอลลา คาร์ลตัน มัวร์ จาก ฟิลาเดลเฟีย รัฐ เพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายจากตระกูลวินธรอป ตระกูลของฟอน โรเซนเป็นชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในสวีเดน คุณย่าของเขาคือ คลารา เจสซัพ มัวร์ ซึ่งเป็นนักเขียนและผู้ใจบุญ พี่ชายของเขาคือ เคานต์ แคลเรนซ์ ฟอน โรเซน ซึ่งเป็นสมาชิกของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล
2.2. การแต่งงานและบุตร
ฟอน โรเซนแต่งงานกับ มาลี ฟอกก์ (ค.ศ. 1886-1967) และมีบุตรด้วยกันหกคน ได้แก่ บียอร์น (เกิด ค.ศ. 1905), มาลี (เกิด ค.ศ. 1906), คาร์ล กุสตาฟ ฟอน โรเซน (เกิด ค.ศ. 1909), บริกิตตา (เกิด ค.ศ. 1913), เอกิล (เกิด ค.ศ. 1919) และอันนา (เกิด ค.ศ. 1926) หลานชายของเขาซึ่งเป็นบุตรของบริกิตตาคือ ปีเตอร์ เนสท์เลอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเยอรมัน ซึ่งในปี ค.ศ. 2009 ได้สร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับฟอน โรเซน ชื่อเรื่องว่า Death and Devil (Tod und Teufelโทด อุนด์ ทอยเฟิลภาษาเยอรมัน)
2.3. การสำรวจและกิจกรรมช่วงต้น
เอริก ฟอน โรเซน มีบทบาทสำคัญในฐานะนักสำรวจและนักชาติพันธุ์วรรณนา เขาได้เดินทางสำรวจไปยัง ทวีปอเมริกาใต้ ในปี ค.ศ. 1901 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมในฐานะผู้อุปถัมภ์ นอกจากนี้ เขายังได้ว่าจ้างให้ อีวาร์ เทงบอม และ แอร์นส์ โทรูล์ฟ ออกแบบบ้านพักล่าสัตว์ของเขาในปี ค.ศ. 1909 ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ใน เขตอนุรักษ์ธรรมชาติยักต์สตูอุสกูเกน
3. สัญลักษณ์สวัสดิกะและความหมาย
สัญลักษณ์สวัสดิกะที่ คาร์ล กุสตาฟ เอริก ฟอน โรเซน นำมาใช้นั้นมีที่มาจากการตีความส่วนตัวและความเชื่อในยุคแรกเริ่ม แต่ในเวลาต่อมาได้มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การเมืองที่ซับซ้อนและก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมาก
3.1. การใช้ส่วนตัวและต้นกำเนิด
เอริก ฟอน โรเซน เริ่มใช้สัญลักษณ์สวัสดิกะเป็นเครื่องหมายส่วนตัวของตนเอง เขาพบเห็นสัญลักษณ์นี้ครั้งแรกบน ศิลาจารึกรูน ใน กอตลันด์ ขณะที่ยังเป็นนักเรียน ด้วยความเชื่อว่าสัญลักษณ์สวัสดิกะเป็นเครื่องรางนำโชคของชาว ไวกิ้ง เขาจึงนำสัญลักษณ์นี้มาใช้และให้แกะสลักลงบนสัมภาระทั้งหมดของเขาเมื่อเดินทางไปสำรวจ ทวีปอเมริกาใต้ ในปี ค.ศ. 1901 นอกจากนี้ สัญลักษณ์สวัสดิกะยังพบได้ในบ้านพักล่าสัตว์ที่เขาว่าจ้างให้ อีวาร์ เทงบอม และ แอร์นส์ โทรูล์ฟ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติยักต์สตูอุสกูเกน
3.2. สัญลักษณ์ของกองทัพอากาศฟินแลนด์
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1918 ระหว่าง สงครามกลางเมืองฟินแลนด์ ฟอน โรเซนได้บริจาคเครื่องบินรุ่น Morane-Saulnier MS Parasol/Thulin D ให้กับฝ่ายขาว ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของ กองทัพอากาศฟินแลนด์ เครื่องบินลำดังกล่าวถูกทำเครื่องหมายด้วยตราสัญลักษณ์ส่วนตัวของเขา นั่นคือสวัสดิกะสีน้ำเงินบนพื้นขาว ซึ่งต่อมากองทัพอากาศฟินแลนด์ได้นำสัญลักษณ์นี้มาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำชาติของตนเอง
3.3. ความเชื่อมโยงกับลัทธินาซี
เอริก ฟอน โรเซน กลายเป็นพี่เขยของ แฮร์มันน์ เกอริง เมื่อ คาริน ฟอน คันท์โซว์ น้องสาวของภรรยาของเขา ได้แต่งงานกับเกอริง ทั้งคู่ได้รู้จักกันครั้งแรกเมื่อเกอริงกำลังบินพาเอริก ฟอน โรเซน จาก สต็อกโฮล์ม ไปยัง ปราสาทร็อกเคลสตัด ที่ทะเลสาบ บอเวน ใน เชอร์มลันด์ ประเทศสวีเดน แต่เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย เกอริงจึงต้องพักอยู่ที่ปราสาทแห่งนั้น ที่นั่นเองเขาได้พบกับคาริน ฟอน คันท์โซว์ ซึ่งในขณะนั้นยังแต่งงานกับนายทหารชาวสวีเดนชื่อ นิลส์ ฟอน คันท์โซว์ แต่ต่อมาเธอได้หย่าร้างในปี ค.ศ. 1922 และกลายเป็นภรรยาในอนาคตและความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกอริง
ระหว่างที่เกอริงพำนักอยู่ที่ปราสาทร็อกเคลสตัด เขาได้สังเกตเห็นสัญลักษณ์สวัสดิกะที่ถูกหลอมเป็นโลหะประดับอยู่ที่เตาผิงของฟอน โรเซน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ พรรคนาซี เยอรมันได้นำสัญลักษณ์สวัสดิกะมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของพรรคแล้วในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งเป็นเวลาสองปีก่อนที่เกอริงจะพบกับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และก่อนที่เขาจะพบกับครอบครัวของฟอน โรเซนเสียอีก ดังนั้น สวัสดิกะของฟอน โรเซนจึงไม่ใช่ต้นกำเนิดของสวัสดิกะนาซีเยอรมัน แม้จะมีความคล้ายคลึงกันก็ตาม
ถึงแม้สัญลักษณ์สวัสดิกะของฟอน โรเซนจะไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของนาซี แต่ตัวฟอน โรเซนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของพรรคสังคมนิยมแห่งชาติสวีเดนอย่างใกล้ชิด เขาเป็นบุคคลสำคัญและผู้นำในขบวนการนี้ในช่วงทศวรรษ 1930 และได้กล่าวปราศรัยในงานของพรรคในปี ค.ศ. 1935 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางอุดมการณ์ของเขากับลัทธินาซี
4. กิจกรรมทางการเมืองและความคิด
คาร์ล กุสตาฟ เอริก ฟอน โรเซน ไม่เพียงแต่เป็นนักสำรวจและผู้อุปถัมภ์เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในวงการการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมในขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติของสวีเดน ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดทางการเมืองที่น่าถกเถียงของเขา
4.1. ขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติสวีเดน
เอริก ฟอน โรเซน เป็นบุคคลสำคัญและผู้นำในขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติของสวีเดนในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อุดมการณ์ ฟาสซิสต์ และ นาซี กำลังเฟื่องฟูในยุโรป บทบาทของเขาในขบวนการนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งและสังคมนิยมแห่งชาติ เขาปรากฏตัวในโปสเตอร์โฆษณาของ กลุ่มสังคมนิยมแห่งชาติ (National Socialist Bloc) ซึ่งประกาศการประชุมในปี ค.ศ. 1935 โดยมีเขาเป็นผู้ปราศรัยหลัก การมีส่วนร่วมของฟอน โรเซนในขบวนการนี้ตอกย้ำถึงความเชื่อมโยงของเขากับอุดมการณ์ที่ต่อต้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการประเมินมรดกทางประวัติศาสตร์ของเขา
5. การประเมินและข้อถกเถียง
ชีวิตและบทบาทของ คาร์ล กุสตาฟ เอริก ฟอน โรเซน เป็นประเด็นที่ซับซ้อนในการประเมินทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากคุณูปการบางส่วนของเขาถูกบดบังด้วยความเชื่อมโยงกับอุดมการณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง
5.1. การประเมินทางประวัติศาสตร์
ในการประเมินทางประวัติศาสตร์ เอริก ฟอน โรเซน ได้รับการจดจำจากบทบาทของเขาในฐานะนักสำรวจ นักชาติพันธุ์วรรณนา และผู้อุปถัมภ์ทางวัฒนธรรมและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนทางการเงินและการบริจาคเครื่องบินลำแรกให้กับ กองทัพอากาศฟินแลนด์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งกองทัพอากาศของประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม การประเมินผลงานเหล่านี้จะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับแนวคิดทางการเมืองที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมในขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติของสวีเดน ซึ่งเป็นอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การมองฟอน โรเซนในบริบททางประวัติศาสตร์จึงต้องครอบคลุมมุมมองที่หลากหลาย เพื่อให้เข้าใจถึงความซับซ้อนของบุคคลและยุคสมัยที่เขาดำรงอยู่
5.2. การวิพากษ์วิจารณ์และข้อถกเถียง
ข้อถกเถียงและการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเอริก ฟอน โรเซน ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมโยงของเขากับ ลัทธินาซี และการใช้สัญลักษณ์สวัสดิกะของเขา แม้ว่าสวัสดิกะที่เขาใช้จะเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวที่มีต้นกำเนิดจากความเชื่อในยุคไวกิ้ง แต่การที่สัญลักษณ์นี้ถูกนำไปใช้โดย พรรคนาซี เยอรมัน ซึ่งก่อให้เกิดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างร้ายแรง ทำให้การใช้สัญลักษณ์ของฟอน โรเซนกลายเป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างยิ่ง
ความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับ แฮร์มันน์ เกอริง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำคนสำคัญของนาซีเยอรมัน ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับภาพลักษณ์ของฟอน โรเซน แม้ว่าสวัสดิกะของนาซีจะถูกนำมาใช้ก่อนที่เกอริงจะพบกับฟอน โรเซน แต่การที่ฟอน โรเซนเองก็มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในขบวนการสังคมนิยมแห่งชาติสวีเดน และการกล่าวปราศรัยในงานของพรรคนาซีสวีเดนในปี ค.ศ. 1935 ก็แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอุดมการณ์ที่ต่อต้านประชาธิปไตยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน
จากมุมมองด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความยุติธรรมทางสังคม การกระทำและแนวคิดของฟอน โรเซนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนาซีถือเป็นการบ่อนทำลายคุณค่าพื้นฐานเหล่านี้ การวิพากษ์วิจารณ์จึงมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการสนับสนุนอุดมการณ์ดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และการกดขี่ในประวัติศาสตร์
6. ผลกระทบ
คาร์ล กุสตาฟ เอริก ฟอน โรเซน มีผลกระทบโดยตรงต่อเหตุการณ์สำคัญบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการก่อตั้งและพัฒนาการของกองทัพอากาศฟินแลนด์
6.1. ผลกระทบต่อกองทัพอากาศฟินแลนด์
ผลกระทบที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของเอริก ฟอน โรเซน คือบทบาทของเขาในการก่อตั้ง กองทัพอากาศฟินแลนด์ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1918 ระหว่าง สงครามกลางเมืองฟินแลนด์ ฟอน โรเซนได้บริจาคเครื่องบินรุ่น Morane-Saulnier MS Parasol/Thulin D ให้กับฝ่ายขาว การบริจาคเครื่องบินลำนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของกองทัพอากาศฟินแลนด์ และเครื่องบินลำดังกล่าวก็ถูกทำเครื่องหมายด้วยสัญลักษณ์สวัสดิกะสีน้ำเงินบนพื้นขาว ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ส่วนตัวของฟอน โรเซน
การที่กองทัพอากาศฟินแลนด์ได้นำสัญลักษณ์นี้มาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำชาติของตนเองในช่วงแรกเริ่ม แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลโดยตรงของฟอน โรเซนต่ออัตลักษณ์และการพัฒนาทางทหารของประเทศในระยะแรกเริ่ม แม้ว่าสัญลักษณ์นี้จะถูกยกเลิกไปในภายหลังเนื่องจากความเชื่อมโยงกับ ลัทธินาซี แต่บทบาทของฟอน โรเซนในการสนับสนุนการก่อตั้งกองทัพอากาศฟินแลนด์ยังคงเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์การทหารของประเทศนี้