1. อาชีพนักฟุตบอล
เมเชอร์มีอาชีพนักฟุตบอลที่ยาวนานและประสบความสำเร็จ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ครอบคลุมการเล่นในหลายลีกชั้นนำของยุโรป
1.1. อาชีพกับสโมสร
เมเชอร์เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพในประเทศบ้านเกิด ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในลีกยุโรปหลายประเทศ
1.1.1. อาชีพช่วงต้น
เมเชอร์เกิดที่มาปูตู ประเทศโมซัมบิก และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเดสปอร์ตีโว เด มาปูตู (GD Maputo) ในช่วงปี ค.ศ. 2006 ถึง ค.ศ. 2010 เขาลงสนามให้กับสโมสรไป 97 นัดและทำได้ 3 ประตู นอกจากนี้ เขายังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์โมซัมโบลา (Moçambola) ในปี ค.ศ. 2006 และตาซา เด โมซัมบิก (Taça de Moçambique) ในปีเดียวกัน
1.1.2. โปรตุเกส
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 เมเชอร์และไซนาดีน ฌูนีออร์ กองหลังเพื่อนร่วมชาติ ได้รับโอกาสทดสอบฝีเท้ากับสโมสรสปอร์ติง ซีพี ในประเทศโปรตุเกส และในช่วงต้นปีถัดมา เขาก็ได้เซ็นสัญญาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง พร้อมตัวเลือกในการขยายสัญญาอีก 3 ปี ด้วยค่าตัว 173.00 K EUR
เมเชอร์ประเดิมสนามให้กับทีมสำรองของสปอร์ติงเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ในการแข่งขันลิกา อินเตอร์กาลา (Liga Intercalar) กับสโมสรเบเลเนนเซส ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน สปอร์ติงได้ขายสิทธิ์ 50% ของรายรับจากการย้ายทีมในอนาคตของเขาให้กับ Traffic Group เป็นจำนวน 87.00 K EUR และในฤดูกาล 2010-11 เขาก็ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรออลฮาเนนเซ ซึ่งเป็นทีมในปรีไมราลีกาเช่นกัน เขาประเดิมสนามในลีกเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2010 โดยลงเล่น 6 นาทีในเกมที่เสมอกับสปอร์ติง 0-0 เมเชอร์ยังคงอยู่กับออลฮาเนนเซในฤดูกาล 2011-12 โดยพลาดการลงสนามในลีกไปเพียง 6 นัด และช่วยให้ทีมจากแอลการ์ฟรักษาสถานะในลีกสูงสุดไว้ได้ ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับออลฮาเนนเซ เขาลงสนามไป 39 นัดแต่ยังทำประตูไม่ได้
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 เมเชอร์ย้ายไปร่วมทีมนาซีอองนาล ในลีกสูงสุดของโปรตุเกสเช่นกัน ด้วยสัญญา 4 ปี เขาทำประตูแรกในอาชีพนักฟุตบอลอาชีพได้เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2013 โดยเป็นประตูตีเสมอในเกมที่เอาชนะบรากา 3-2 ที่บ้านของตนเอง ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับนาซีอองนาล เขาลงสนามไป 57 นัดและทำได้ 2 ประตู
หลังจากค้าแข้งในฝรั่งเศส เมเชอร์ได้กลับมายังโปรตุเกสอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2022 โดยเซ็นสัญญา 1 ปีกับสโมสรเอสโตริล ปรายา ในวัย 34 ปี เขาลงสนามให้กับเอสโตริลไป 14 นัดในฤดูกาลนั้น
1.1.3. ฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2014 หลังจากความพยายามย้ายทีมไปฝรั่งเศสไม่สำเร็จในเดือนมกราคม เมเชอร์ได้เซ็นสัญญา 3 ปีกับสโมสรแรแน ในลีกเอิง เขาประเดิมสนามในลีกเอิงเพียงนัดที่สองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม โดยทำได้ 2 ประตูในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะเอเวียง ไปอย่างถล่มทลาย 6-2 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับแรแน เขาลงสนามไป 120 นัดและทำได้ 5 ประตู

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง เมเชอร์ก็ขยายสัญญาของเขากับแรแนออกไปจนถึงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2019 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2018-19 ซึ่งทีมสามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2019 เมเชอร์ลงเล่นครบ 120 นาทีและทำประตูตีเสมอ 2-2 ในเกมกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในนัดชิงชนะเลิศกุปเดอฟร็องส์ ซึ่งช่วยให้ทีมของเขาคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ 118 ปีของสโมสร หลังจากที่ตามหลังอยู่ 2-0
หลังจากสัญญาของเขากับแรแนหมดลง เมเชอร์ได้รับความสนใจจากเรนเจอส์ ในสกอตติชพรีเมียร์ชิป และได้พบกับผู้จัดการทีมสตีเวน เจอร์ราร์ด อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะค้าแข้งในฝรั่งเศสต่อไป โดยเซ็นสัญญา 4 ปีกับสโมสรบอร์โด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับบอร์โด เขาลงสนามไป 44 นัดและทำได้ 1 ประตู ในฤดูกาล 2020-21 เขาถูกจำกัดการลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ต้นขาซ้ำ ๆ
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2021 เมเชอร์ทำประตูแรกให้กับบอร์โดได้ เป็นประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมในบ้านที่เสมอกับอดีตสโมสรของเขาอย่างแรแน 1-1
1.1.4. ตุรกี
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2023 เมเชอร์ได้ย้ายไปร่วมทีมบันดีร์มาสปอร์ ในทีเอฟเอฟ เฟิสต์ ลีก ของประเทศตุรกี ด้วยสัญญา 2 ปี
1.2. อาชีพกับทีมชาติ
เมเชอร์เป็นส่วนสำคัญของทีมชาติโมซัมบิก มายาวนาน โดยได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์สำคัญหลายรายการ
1.2.1. การประเดิมสนามและทัวร์นาเมนต์สำคัญ
เมเชอร์ประเดิมสนามให้กับทีมชาติโมซัมบิกเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2007 ในเกมที่แพ้แซมเบีย 0-3 ในรอบรองชนะเลิศของโคซาฟา คัพ 2007 ในการแข่งขันโคซาฟา คัพ 2008 เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศมาได้ แม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศกับแอฟริกาใต้ก็ตาม
เขายังเป็นตัวแทนของประเทศในการแข่งขันแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2010 ที่ประเทศแองโกลา ซึ่งทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม นอกจากนี้ เขายังได้เข้าร่วมการแข่งขันแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2023 อีกด้วย นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เมเชอร์ลงสนามให้กับทีมชาติโมซัมบิกไปแล้วมากกว่า 60 นัด
1.2.2. การทำประตูในนามทีมชาติ
เมเชอร์ทำประตูแรกในนามทีมชาติได้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ในเกมที่โมซัมบิกเปิดบ้านเอาชนะซูดานใต้ 5-0 ในเลกแรกของรอบแรกของการแข่งขันแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2015 รอบคัดเลือก
- ประตูและผลการแข่งขันจะแสดงผลประตูของโมซัมบิกก่อน โดยคอลัมน์คะแนนจะระบุคะแนนหลังจากที่เมเชอร์ทำประตูได้แต่ละครั้ง
No. | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | คะแนน | ผลการแข่งขัน | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 | อิชตาดีอู ดู ซิมเปตู, มาปูตู, โมซัมบิก | ซูดานใต้ | 2-0 | 5-0 | แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2015 รอบคัดเลือก |
2 | 13 ตุลาคม ค.ศ. 2018 | อิชตาดีอู ดู ซิมเปตู, มาปูตู, โมซัมบิก | นามิเบีย | 1-0 | 1-2 | แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2019 รอบคัดเลือก |
3 | 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 | อิชตาดีอู ดู ซิมเปตู, มาปูตู, โมซัมบิก | รวันดา | 1-0 | 2-0 | แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2021 รอบคัดเลือก |
2. เกียรติประวัติ
เมเชอร์ได้รับเกียรติประวัติทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติหลายรายการตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขา
2.1. เกียรติประวัติกับสโมสร
- จีดี มาปูโต
- โมซัมโบลา: 2006
- ตาซา เด โมซัมบิก: 2006
- สตาดแรแน
- กุปเดอฟร็องส์: 2018-19
- กุป เดอ ลา ลีก: รอบรองชนะเลิศ 2017-18
2.2. เกียรติประวัติกับทีมชาติ
- โมซัมบิก
- โคซาฟา คัพ: รองชนะเลิศ 2008
3. ชีวิตส่วนตัว
เอ็ดสัน อังเดร ซีโตเอ หรือ เมเชอร์ เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1988 ที่มาปูตู ประเทศโมซัมบิก เขามีส่วนสูง 186 cm และน้ำหนัก 81 kg
4. การประเมินและผลกระทบ
เมเชอร์ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลจากประเทศโมซัมบิก การที่เขาสามารถสร้างอาชีพที่ยาวนานในลีกชั้นนำของยุโรปอย่างปรีไมราลีกาและลีกเอิง รวมถึงการคว้าแชมป์กุปเดอฟร็องส์ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความทุ่มเทของเขาในฐานะกองหลังตัวกลาง นอกจากนี้ การเป็นผู้เล่นหลักของทีมชาติโมซัมบิกมาอย่างยาวนานและมีส่วนร่วมในรายการแข่งขันระดับทวีปหลายครั้ง ยังตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของเขาในการพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจให้กับวงการฟุตบอลในประเทศบ้านเกิด