1. ภาพรวม
เอ็ดเวิร์ด 'เท็ด' วิซาร์ด (Edward 'Ted' Vizardภาษาอังกฤษ) เป็นนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวเวลส์ ผู้ซึ่งใช้เวลาเกือบตลอดอาชีพนักฟุตบอลของเขากับสโมสร โบลตัน วันเดอเรอร์ส โดยเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ถึงสามสมัย ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมให้กับหลายสโมสร รวมถึง สวินดอน ทาวน์, ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์ และ วูลเวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
2. ชีวิต
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด เกิดในปี ค.ศ. 1889 และเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1973 เขาเป็นบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลอังกฤษและเวลส์ตลอดช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20
2.1. การเกิดและภูมิหลังช่วงต้น
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1889 ที่เมือง โคแกน ประเทศ เวลส์ ในช่วงวัยเด็ก เขาได้พัฒนาทักษะทางฟุตบอลและเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
3. อาชีพนักฟุตบอล
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด มีอาชีพนักฟุตบอลที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรโบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เขาได้สร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างสูง
3.1. การค้าแข้งกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส
วิซาร์ดเข้าร่วมสโมสร โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1910 โดยย้ายมาจากสโมสร แบร์รี ทาวน์ ยูไนเต็ด และได้ประเดิมสนามในปีเดียวกันนั้นเอง ตลอด 18 ฤดูกาล เขาได้ยึดตำแหน่ง ปีกซ้าย เป็นของตนเองอย่างถาวร โดยลงสนามให้กับ "เดอะทรอตเตอร์ส" (ฉายาของโบลตัน วันเดอเรอร์ส) ไปทั้งสิ้น 512 นัด และทำประตูได้ 70 ประตู
3.2. การคว้าแชมป์เอฟเอคัพ
ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับโบลตัน วิซาร์ดได้ลงเล่นใน เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ถึงสามครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมด ได้แก่ ปี 1923, ปี 1926 และ ปี 1929 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสโมสร
3.3. ทีมชาติเวลส์
นอกจากผลงานในระดับสโมสรแล้ว วิซาร์ดยังได้รับใช้ ทีมชาติเวลส์ โดยติดทีมชาติไปทั้งสิ้น 22 นัด ตอกย้ำถึงความสามารถและสถานะของเขาในฐานะนักฟุตบอลระดับนานาชาติ
3.4. สถิติอาชีพนักฟุตบอล
วิซาร์ดยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมจนกระทั่งเขาเกษียณจากการเป็นนักฟุตบอลในปี ค.ศ. 1931 ขณะอายุ 41 ปี ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่ลงสนามให้กับสโมสรโบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่มีใครทำลายได้จนกระทั่งปี ค.ศ. 1995 เมื่อ ปีเตอร์ ชิลตัน ทำลายสถิติดังกล่าว
4. อาชีพผู้จัดการทีม
หลังจากแขวนสตั๊ด เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด ได้ผันตัวเข้าสู่อาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอล โดยได้คุมทีมหลายสโมสรในอังกฤษ
4.1. สวินดอน ทาวน์
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1933 วิซาร์ดได้ลาออกจากตำแหน่งโค้ชทีม 'A' ของโบลตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสร สวินดอน ทาวน์ โดยเขาดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี ค.ศ. 1939
4.2. ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์
หลังจากจบฤดูกาล 1938/39 วิซาร์ดได้ย้ายออกจากสวินดอน ทาวน์ เพื่อไปรับหน้าที่คุมทีม ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์ แทนที่ บิลลี เบอร์เรลล์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการระบาดของ สงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้การแข่งขันฟุตบอลลีกต้องถูกระงับ เขาจึงไม่มีโอกาสได้คุมทีมลงสนามในการแข่งขันอย่างเป็นทางการเลย แม้กระนั้น ทีมก็ยังคงประสบความสำเร็จพอสมควรในการแข่งขันช่วงสงคราม
4.3. วูลเวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
ในปี ค.ศ. 1944 วิซาร์ดได้ย้ายไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีมของ วูลเวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในเดือนเมษายนปีเดียวกัน โดยเข้ารับตำแหน่งต่อจาก เมเจอร์ แฟรงก์ บักลีย์ แม้ว่าเขาจะพาทีมจบอันดับ 3 ใน ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชัน ฤดูกาล 1946/47 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกหลังสงคราม แต่เขาก็ถูกแทนที่โดย สแตน คัลลิส ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1948
5. ชีวิตส่วนตัว
ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด นอกเหนือจากอาชีพนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมนั้นมีจำกัดในแหล่งข้อมูล
6. การเสียชีวิต
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1973
7. การประเมินและผลกระทบ
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ในวงการฟุตบอล ทั้งในฐานะนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่และผู้จัดการทีมที่มากประสบการณ์
7.1. การประเมินในฐานะนักฟุตบอล
ในฐานะนักฟุตบอล วิซาร์ดเป็นที่จดจำในฐานะผู้เล่นที่ซื่อสัตย์และทุ่มเทให้กับสโมสร โบลตัน วันเดอเรอร์ส ตลอด 18 ฤดูกาล การลงสนามมากกว่า 500 นัด และการเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์เอฟเอคัพถึงสามสมัย แสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอ ความสามารถ และความสำคัญของเขาต่อความสำเร็จของทีมในช่วงยุคทอง การเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่ลงสนามให้กับโบลตันยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความทนทานและอายุการค้าแข้งที่ยาวนานของเขา
7.2. การประเมินในฐานะผู้จัดการทีม
แม้ว่าอาชีพผู้จัดการทีมของวิซาร์ดอาจไม่โดดเด่นเท่าอาชีพนักฟุตบอล แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาทีม วูลเวอร์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จบอันดับ 3 ในลีกสูงสุดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจ การที่เขาต้องรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างสงครามโลกครั้งที่สองในระหว่างคุมทีม ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์ ก็แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่เขาต้องเผชิญในฐานะผู้จัดการทีม
7.3. ผลกระทบต่อวงการฟุตบอล
เอ็ดเวิร์ด วิซาร์ด มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลในฐานะผู้เล่นที่ยืนหยัดในระดับสูงสุดเป็นเวลานาน และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เอฟเอคัพ นอกจากนี้ ประสบการณ์ของเขาในการเปลี่ยนผ่านจากผู้เล่นไปเป็นผู้จัดการทีม และการนำพาสโมสรต่างๆ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ยังเป็นแบบอย่างให้กับนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมรุ่นหลังในวงการฟุตบอลอังกฤษและเวลส์