1. Playing Career
อัซมิน อัซรัมเริ่มต้นเส้นทางในวงการฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย ไต่เต้าจากทีมเยาวชนสู่การเป็นผู้รักษาประตูมืออาชีพให้กับสโมสรชั้นนำหลายแห่งในมาเลเซีย ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้รักษาประตูตัวหลักของทีมชาติ
1.1. Youth and Early Club Career
อัซมินเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับทีมเยาวชนของสโมสรกัวลาลัมเปอร์เอฟเอ เขาได้รับการชี้แนะจากอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติมาเลเซียอย่างอับดุล ราชิด ฮัสซัน และลิม ชวน ชิน ซึ่งช่วยให้เขาพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูชั้นนำของมาเลเซีย ในปี พ.ศ. 2536 เขาได้เลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรกัวลาลัมเปอร์เอฟเอ และเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้จนถึงปี พ.ศ. 2541 ลงสนามไปทั้งสิ้น 129 นัด
1.2. Professional Club Career
หลังจากช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จกับสโมสรกัวลาลัมเปอร์เอฟเอ อัซมินได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ ในมาเลเซีย โดยในปี พ.ศ. 2542 เขาเล่นให้กับเนอเกอรีเซิมบีลันเอฟเอ ลงสนาม 29 นัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 จนถึงปี พ.ศ. 2546 เขาได้ย้ายไปอยู่กับเซอลาโงร์เอฟเอ โดยลงเล่นไป 79 นัด ในช่วงปี พ.ศ. 2547 ถึง พ.ศ. 2548 เขาเป็นผู้เล่นของปะหังเอฟเอ ลงสนาม 31 นัด และในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสรคือปี พ.ศ. 2549 เขาเล่นให้กับเอ็มพีพีเจ เอฟซี โดยลงสนาม 19 นัด เขาเคยเป็นตัวแทนของทีมจากสี่รัฐและหนึ่งสโมสรในอาชีพการค้าแข้งของเขา
1.3. National Team Career
อัซมิน อัซรัมได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติมาเลเซียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ถึง พ.ศ. 2548 โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 69 นัด ในปี พ.ศ. 2545 อัซมินได้รับโอกาสสำคัญเมื่อเขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 5 สมัย เขาได้รับเลือกให้ลงสนามเป็น 11 คนแรก โดยต้องเผชิญหน้ากับดารานักเตะระดับโลกอย่างโรนัลโด และโรนัลดินโญ จากสโมสรบาร์เซโลนา ภายใต้การฝึกสอนของอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติมาเลเซีย อับดุล ราชิด ฮัสซัน และลิม ชวน ชิน อัซมินได้ก้าวขึ้นเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของมาเลเซียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2547 ก่อนที่ตำแหน่งของเขาจะถูกแทนที่โดยโมฮัมหมัด ชัมซูรี มุสตาฟา
1.4. Playing Career Retirement
อัซมิน อัซรัมตัดสินใจเกษียณจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเมื่ออายุ 30 ปี หลังจากได้รับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาต้องยุติเส้นทางการค้าแข้งในฐานะนักกีฬา
2. Coaching Career
หลังจากการเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลเนื่องจากอาการบาดเจ็บ อัซมิน อัซรัมได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน โดยใช้ประสบการณ์อันยาวนานของเขาในการพัฒนาผู้รักษาประตูรุ่นใหม่
2.1. Early Coaching Activities
หลังจากเกษียณจากการเป็นนักฟุตบอล อัซมิน อัซรัมได้เริ่มทำงานในฐานะผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูและผู้คัดเลือกนักกีฬา (scout) ให้กับสภาการกีฬาแห่งชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพการเป็นผู้ฝึกสอนของเขา
2.2. National Team Coaching
เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2560 อัซมินได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนตัน เชง โฮ ให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานผู้ฝึกสอนของทีมชาติมาเลเซีย โดยเขารับผิดชอบตำแหน่งผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูให้กับทีมชาติจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
2.3. Club Coaching
นอกจากบทบาทในทีมชาติแล้ว อัซมินยังเคยทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูให้กับสโมสรเฟลดา ยูไนเต็ด อีกด้วย และในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 อัซมินได้เข้าร่วมกับสโมสรฟุตบอลกงอันฮานอย ซึ่งเป็นสโมสรในวีลีก 1 ของประเทศเวียดนาม โดยรับตำแหน่งผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูให้กับสโมสรแห่งนี้
3. Honours
ตลอดอาชีพการเล่นของอัซมิน อัซรัม เขาได้รับเกียรติประวัติและรางวัลต่าง ๆ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติมาเลเซีย:
- กัวลาลัมเปอร์
- มาเลเซียเอฟเอคัพ: พ.ศ. 2536, พ.ศ. 2537, พ.ศ. 2542
- เซอลาโงร์
- มาเลเซีย พรีเมียร์ 1 ลีก: พ.ศ. 2543
- มาเลเซียเอฟเอคัพ: พ.ศ. 2544
- มาเลเซียคัพ: พ.ศ. 2545
- ปะหัง
- มาเลเซียซูเปอร์ลีก: พ.ศ. 2547
- มาเลเซีย
- รองชนะเลิศเมอร์เดกาคัพ: พ.ศ. 2543
4. Controversies
ในระหว่างอาชีพนักฟุตบอลของเขา อัซมิน อัซรัมเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เป็นข้อโต้แย้งในปี พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เหตุการณ์ดิสโก" โดยอัซมินพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาติอีกสองคนคือ มูฮัมหมัด คาลิด จามลุส และกามารุลซามาน ฮัสซัน ถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติมาเลเซียชุดที่จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งต้องพบกับทีมชาติกาตาร์, ทีมชาติปาเลสไตน์ และทีมชาติฮ่องกง เนื่องจากพวกเขาถูกพบว่าไปเที่ยวดิสโกในช่วงดึก ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทีมชาติ
5. Legacy and Influence
อัซมิน อัซรัม อับดุล อาซิซ ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนที่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลมาเลเซีย ด้วยอาชีพที่ยาวนานทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน เขาได้ทิ้งมรดกที่สำคัญไว้ในหลายด้าน ในฐานะผู้รักษาประตู เขาเป็นที่จดจำจากฝีมือและความสามารถในการเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติ รวมถึงการเผชิญหน้ากับนักเตะระดับโลกอย่างโรนัลโดและโรนัลดินโญ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของเขา การคว้าแชมป์และถ้วยรางวัลมากมายกับสโมสรต่างๆ ได้ตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของเขาในการนำพาทีมสู่ความสำเร็จ
หลังจากเกษียณจากการเล่นฟุตบอล อัซมินได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู และได้นำประสบการณ์และความรู้ของเขามาถ่ายทอดให้กับผู้รักษาประตูรุ่นใหม่ ทั้งในระดับสโมสรและในทีมชาติมาเลเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขาในการพัฒนาวงการฟุตบอลมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง บทบาทของเขาในฐานะผู้คัดเลือกนักกีฬาให้กับสภาการกีฬาแห่งชาติมาเลเซียยังเน้นย้ำถึงความพยายามของเขาในการค้นหาและบ่มเพาะพรสวรรค์ใหม่ๆ ให้กับประเทศ การที่เขายังคงมีบทบาทสำคัญในวงการฟุตบอลมาเลเซียและเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ยั่งยืนและความเชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค