1. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
ลูว์กา ดีญเกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 ที่โม จังหวัดแซเนมาร์น ประเทศฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อยและเข้าร่วมสโมสรเยาวชนหลายแห่งก่อนจะก้าวเข้าสู่ระดับอาชีพ
1.1. วัยเด็กและการศึกษา
ดีญเริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรเยาวชนยูเอส มารูย-ซูร์-อูร์กตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ถึง 2002 จากนั้นย้ายไปยูเอส เกรปี-ออง-วาลัวส์ในปี ค.ศ. 2002 ถึง 2005 และเข้าร่วมลีลล์ในปี ค.ศ. 2005 เพื่อพัฒนาฝีเท้าในระดับเยาวชน
1.2. อาชีพช่วงต้น
ดีญสำเร็จการพัฒนาฝีเท้ากับสโมสรลีลล์ โดยได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 เป็นระยะเวลาสามปี ก่อนจะขยายสัญญาออกไปจนถึงปี ค.ศ. 2016 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2011-12 ดีญได้รับการเลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างถาวรและได้รับมอบเสื้อหมายเลข 3 เขาประเดิมสนามในระดับอาชีพเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2011 ในการแข่งขันกุปเดอลาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งลีลล์เอาชนะเซดันไป 6-1
2. อาชีพสโมสร
ดีญมีอาชีพค้าแข้งที่หลากหลายกับสโมสรชั้นนำหลายแห่งในยุโรป โดยเริ่มต้นจากฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายไปอิตาลีและสเปน และปัจจุบันค้าแข้งอยู่ในอังกฤษ
2.1. ลีลล์
ดีญประเดิมสนามในลีกเอิงเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2012 ที่สนามสตาดนอร์ลีลเมโทรปอล โดยลงเล่นสองนาทีสุดท้ายในเกมที่ชนะแซ็งเตเตียน 3-0 ในฤดูกาลนั้นเขาลงสนามในลีกรวม 16 นัด ขณะที่ลีลล์ซึ่งเป็นแชมป์เก่าจบอันดับสามในลีก
ในฤดูกาล 2012-13 ดีญกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 เขาทำประตูให้ลีลล์ขึ้นนำ 3-1 ในเกมที่บุกไปชนะอาฌักซีโย โดยลูกยิงของเขาแฉลบยออาน ปูว์ลาร์เข้าประตูไป แต่หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเขาก็ถูกไล่ออกจากการทำฟาวล์มาตีเยอ ชาลเม เขาทำประตูแรกได้เมื่อวันที่ 7 เมษายน เป็นลูกจุดโทษในเกมที่ชนะลอรีย็อง 5-0 ในบ้าน และอีกสองสัปดาห์ต่อมาเขาก็ทำประตูตีเสมอในเกมที่พลิกกลับมาชนะบัสตียา 2-1
2.2. ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 ดีญได้เซ็นสัญญาห้าปีกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง โดยมีค่าตัวประมาณ 15.00 M EUR เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามในเกมที่ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งชนะบอร์โด 2-1 ในศึกทรอเฟเดช็องปียง ที่ประเทศกาบอง เขาไม่ได้ประเดิมสนามจนกระทั่งวันที่ 13 กันยายน ในเกมที่ชนะคู่แข่งเดียวกัน 2-0 เนื่องจากผู้จัดการทีมโลร็อง บล็องได้หมุนเวียนผู้เล่นก่อนการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ลีกและกุปเดอลาลีก แม้ว่าดีญจะเป็นตัวสำรองของมักซ์เวลล์ แบ็กซ้ายจอมเก๋าชาวบราซิลก็ตาม
ดีญลงเล่นครบ 90 นาทีในทรอเฟเดช็องปียง 2014 ซึ่งปารีแซ็ง-แฌร์แม็งชนะแก็งก็อง 2-0 ที่กรุงปักกิ่ง ในฤดูกาล 2014-15 ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ภายในประเทศได้ทั้งสี่รายการ โดยดีญเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศกุปเดอฟร็องส์ และกุปเดอลาลีก
2.3. โรม่า (ยืมตัว)
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2015 สโมสรเซเรียอาของอิตาลีอย่างโรมาได้เซ็นสัญญายืมตัวดีญจากปารีแซ็ง-แฌร์แม็งเป็นระยะเวลาหนึ่งฤดูกาล ด้วยค่าตัว 2.50 M EUR พร้อมเงื่อนไขซื้อขาดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2015-16 เขาประเดิมสนามให้กับโรมาในอีกห้าวันต่อมา โดยลงเล่นเต็มเกมในนัดที่ชนะยูเวนตุส 2-1 ที่สตาดิโอโอลิมปิโก เขาทำท่าจูบเย้ยหยันคู่แข่งโรเบร์โต เปเรย์รา และแนะนำให้เขาดูสกอร์บอร์ด ซึ่งเป็นท่าทางที่คล้ายกับฟรันเชสโก ตอตตี กัปตันทีมโรมา ที่เคยทำกับอีกอร์ ตูดอร์ ของคู่แข่งคนเดียวกันในเกมที่ชนะ 4-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004
ดีญทำประตูแรกให้กับ จัลโลรอสซี เมื่อวันที่ 26 กันยายน ด้วยลูกโหม่งระยะใกล้ในเกมที่ชนะคาร์ปิ 5-1 ในบ้าน โดยก่อนหน้านี้เขาได้แอสซิสต์ให้คอสตาส มาโนลาสทำประตูแรกให้กับสโมสร ในเกมกับคู่แข่งเดียวกันเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูจากระยะ 30 m ในเกมที่ชนะ 3-1 หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ และเมื่อวันที่ 17 เมษายน เขาก็ทำประตูเปิดสกอร์ในเกมที่เสมอกับอาตาลันตา 3-3 ทีมจากเมืองหลวงของอิตาลีจบอันดับสามในเซเรียอา และดีญได้ประกาศว่าเขาต้องการย้ายทีมเป็นการถาวร
2.4. บาร์เซโลนา

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ดีญได้เข้าร่วมสโมสรลาลิกาของสเปนอย่างบาร์เซโลนาด้วยสัญญาห้าปี ค่าตัวอยู่ที่ 16.50 M EUR โดยอาจเพิ่มขึ้นเป็น 20.50 M EUR ขึ้นอยู่กับผลงานส่วนบุคคลและผลงานของทีม เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 ดีญประเดิมสนามให้กับบาร์เซโลนาในเกมที่ชนะเซบิยา 2-0 ในเลกแรกของซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 27 แทนเฌเรมี มาตีเยอ เพื่อนร่วมชาติ
เขาลงเล่นรวม 26 นัดในฤดูกาลแรกที่กัมนอว์ โดยทำได้หนึ่งประตูในเกมที่ชนะเอร์กูเลส สโมสรจากเซกุนดาดิบิซิออน เบ 7-0 (รวมสองนัด 8-1) ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายของโกปาเดลเรย์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2016 บาร์เซโลนาคว้าแชมป์รายการนั้น โดยดีญไม่ได้ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศโกปาเดลเรย์ 2017 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 ซึ่งชนะอาลาเบส 3-1
ดีญลงเล่น 20 นัดในฤดูกาล 2017-18 ซึ่งบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วยดับเบิลภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเอร์เนสโต บัลเบร์เด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เขาทำประตูได้จากการแอสซิสต์ของลิโอเนล เมสซิ ในเกมที่ชนะโอลิมเปียโกส 3-1 ในบ้าน ในรอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างไรก็ตาม ดีญไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงจากฌอร์ดี อัลบาได้ ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากสโมสร
2.5. เอฟเวอร์ตัน

ดีญเข้าร่วมสโมสรอังกฤษอย่างเอฟเวอร์ตันเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2018 ด้วยสัญญาห้าปี โดยมีค่าตัวเริ่มต้น 18.00 M GBP เขาประเดิมสนามในอีกสิบวันต่อมา โดยลงสนามเป็นตัวสำรองสี่นาทีสุดท้ายแทนรีชาร์ลีซง ผู้ทำสองประตูและผู้เล่นใหม่เช่นกัน ในเกมที่เสมอกับวุลเวอร์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ 2-2 ในการประเดิมสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ในเกมอีเอฟแอลคัพที่ชนะรอเทอร์แฮมยูไนเต็ด 3-1 เขาแอสซิสต์ให้ดอมินิก แคลเวิร์ต-ลูอินทำประตูได้ ดีญประเดิมสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้กับเอฟเวอร์ตันในอีกสี่วันต่อมาในเกมเหย้ากับฮัดเดอร์สฟีลด์ทาวน์ และแอสซิสต์ลูกโหม่งตีเสมอของแคลเวิร์ต-ลูอินในเกมที่เสมอกัน 1-1
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ดีญได้กลายเป็นแบ็กซ้ายตัวเลือกแรกของเอฟเวอร์ตัน แซงหน้าเลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายจอมเก๋า เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ในนาทีที่หกของช่วงทดเวลาบาดเจ็บท้ายเกมกับวอตฟอร์ด โดยยิงฟรีคิกโค้งเข้าประตูไปเป็นผลให้เสมอกัน 2-2 สิบหกวันต่อมาเขาทำสองประตูในเกมที่ชนะเบิร์นลีย์ 5-1 โดยเป็นลูกฟรีคิกและลูกยิงจากระยะ 30 yd เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2019 เขาถูกไล่ออกในเกมที่ชนะฮัดเดอร์สฟีลด์ 1-0 จากการทำฟาวล์อาดามะ ดียาคาบี ซึ่งเป็นการขัดขวางโอกาสในการทำประตู ฤดูกาลแรกของดีญที่เอฟเวอร์ตันจบลงด้วยรางวัลส่วนตัว โดยเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรจากการโหวตของแฟนบอล และผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม ร่วมกับอิดริสซา เกย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการแบ่งรางวัลนี้
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ดีญถูกไล่ออกในเกมที่แพ้เซาแทมป์ตัน 2-0 จากการทำฟาวล์ไคล์ วอล์กเกอร์-ปีเตอส์ ผู้ตัดสินเควิน เฟรนด์บันทึกว่าเป็นการเล่นที่อันตรายร้ายแรงซึ่งมีโทษแบนสามนัด แต่โทษแบนถูกลดเหลือหนึ่งนัดหลังจากยื่นอุทธรณ์
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2022 ดีญแจ้งกับผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันราฟาเอล เบนิเตซว่าเขาไม่ต้องการเล่นให้กับสโมสรอีกต่อไปและต้องการย้ายออกไป โดยเขามีปัญหากับผู้จัดการทีมเรื่องแท็กติก
2.6. แอสตันวิลลา
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2022 แอสตันวิลลาได้ประกาศเซ็นสัญญาดีญจากเอฟเวอร์ตันด้วยค่าตัว 25.00 M GBP โดยมีสัญญาถึงปี ค.ศ. 2026 เขาประเดิมสนามในอีกสองวันต่อมา ในเกมที่เสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-2 ในบ้าน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ดีญทำประตูแรกให้กับทีมในเกมที่ชนะโบลตันวันเดอเรอส์ 4-1 ในรอบสองของอีเอฟแอลคัพ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2022 ดีญได้รับบาดเจ็บกระดูกหักล้าที่ข้อเท้าขณะปฏิบัติหน้าที่กับทีมชาติฝรั่งเศส โดยกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ในฐานะตัวสำรองครึ่งหลังในเกมที่แพ้นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-0 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ดีญทำประตูแรกในลีกให้กับแอสตันวิลลาในเกมที่ชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 ในบ้าน ซึ่งเป็นเกมแรกของอูไน เอเมรีในฐานะผู้จัดการทีม
ดีญแอสซิสต์สามประตูเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2023 ในเกมที่ชนะฮิเบอร์เนียน 5-0 ในการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบคัดเลือก สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของเขาเนื่องจากเอเมรีชอบอาเล็กซ์ โมเรโน แบ็กซ้ายที่มีแนวรุกมากกว่า หนึ่งเดือนต่อมาเขาทำประตูในรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขัน แม้จะแพ้ลีเกียวอร์ซอว์ 3-2 ก็ตาม
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2024 ดีญทำประตูที่สองในลีกให้กับแอสตันวิลลา ซึ่งเป็นประตูชัยในช่วงท้ายเกมในเกมที่ชนะลูตันทาวน์ 3-2
3. อาชีพทีมชาติ
ลูว์กา ดีญเป็นนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนและเป็นตัวแทนของประเทศในระดับU-16, U-17 และU-18
3.1. อาชีพระดับเยาวชน

ในฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2013 ที่ประเทศตุรกี เขาลงเล่นทุกนัดในขณะที่ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ได้
3.2. อาชีพทีมชาติชุดใหญ่
เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ก่อนเกมกระชับมิตรกับเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 5 มีนาคม เขาประเดิมสนามในนัดนั้น โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังแทนปาทริส เอวรา ในเกมที่ชนะ 2-0 ที่สตาดเดอฟร็องส์
ในเดือนมิถุนายน ผู้จัดการทีมดีดีเย เดช็องได้แต่งตั้งดีญเป็นหนึ่งใน 23 ผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศสสำหรับฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล โดยสวมเสื้อหมายเลข 17 การลงสนามเพียงครั้งเดียวของเขาสำหรับทีมที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศคือเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สามกับเอกวาดอร์ ซึ่งเขาถูกทำฟาวล์จนทำให้อันโตนิโอ บาเลนเซีย กัปตันทีมเอกวาดอร์ได้รับใบแดงโดยตรง
ดีญได้รับเลือกให้ติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดรองแชมป์ในบ้านเกิดที่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 แต่ไม่ได้ลงสนาม เขาถูกเรียกตัวสำรองสำหรับทีมในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ดีญลงสนามในครึ่งหลังในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอกับโปรตุเกส 2-2 เนื่องจากอาการบาดเจ็บของลูคัส แอร์น็องเดซ ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ต้องถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา อาการบาดเจ็บที่แบ็กซ้ายทำให้เดช็องต้องใช้แผนการเล่น 3-5-2 ที่ยังไม่เคยทดลองใช้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งฝรั่งเศสแพ้ไป
เดช็องไม่ได้เลือกดีญสำหรับฟุตบอลโลก 2022 แม้จะเลือกกองหลังเก้าคนเข้าทีมก็ตาม เขาให้เหตุผลว่าเขาต้องการเลือกกองหลังที่หลากหลายที่สามารถเล่นตำแหน่งกลางและปีกได้
เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2024 ดีญถูกเรียกตัวติดทีมชาติอีกครั้งหลังจากห่างหายไปประมาณ 2 ปี เนื่องจากแฟร์ล็อง แมนดีได้รับบาดเจ็บและต้องถอนตัวจากการแข่งขัน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เขาลงสนามในเกมยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2024-25 ลีกเอ กับอิตาลี ซึ่งฝรั่งเศสชนะ 3-1 โดยมีส่วนร่วมกับทุกประตูของฝรั่งเศสในเกมนั้น ด้วยการยิงฟรีคิกที่ทำให้เกิดการทำเข้าประตูตัวเองของอิตาลี และแอสซิสต์สองครั้งให้กับอาเดรียง ราบีโย
4. ชีวิตส่วนตัว
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ดีญได้แต่งงานกับแฟนสาวของเขาชื่อติซิรี ซึ่งเขาพบกันตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่มีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคน
ดีญอยู่ในบาร์เซโลนาเมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2017 และได้ให้การปฐมพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บ เขาเป็นคนรักภาพยนตร์และเป็นแฟนตัวยงของทอม แฮงส์
เขามีรอยสักบนหน้าอกว่า "I Never Walk Alone" ซึ่งคล้ายกับเพลง "You'll Never Walk Alone" ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลร้องที่แอนฟีลด์ ทำให้เกิดการคาดเดาว่าดีญอาจเป็นแฟนลิเวอร์พูล แต่เขาปฏิเสธเรื่องนี้ โดยอธิบายว่าคำนี้เป็นคำที่เขาจำได้ดีจากสร้อยคอที่พ่อแม่มอบให้เมื่อเขายังเด็กและเริ่มไปโรงเรียน
ดีญมักจะยิงฟรีคิกบ่อยครั้งตั้งแต่ยังเด็กและมีความมั่นใจในความสามารถนี้ แต่เมื่ออยู่กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เขาต้องอยู่ภายใต้เงาของซลาตัน อิบราฮิโมวิช และที่โรมาก็มีฟรันเชสโก ตอตตี ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ยิงฟรีคิกได้ดีเยี่ยม ทำให้ดีญไม่ค่อยมีโอกาสได้ยิงฟรีคิก และก่อนที่จะย้ายมาเอฟเวอร์ตัน ที่บาร์เซโลนา เขาก็ไม่มีโอกาสยิงฟรีคิกเลยแม้แต่ครั้งเดียวจากการลงสนาม 46 นัด เนื่องจากมีลิโอเนล เมสซิเป็นผู้รับผิดชอบ
5. สถิติอาชีพ
| สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วยในประเทศ | ลีกคัพ | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ดิวิชัน | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
| ลีลล์ | 2011-12 | ลีกเอิง | 16 | 0 | 1 | 0 | 1 | 0 | - | - | 18 | 0 | ||
| 2012-13 | ลีกเอิง | 33 | 2 | 2 | 0 | 2 | 0 | 7 | 1 | - | 44 | 3 | ||
| รวม | 49 | 2 | 3 | 0 | 3 | 0 | 7 | 1 | - | 62 | 3 | |||
| ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | 2013-14 | ลีกเอิง | 15 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | - | 20 | 0 | |
| 2014-15 | ลีกเอิง | 15 | 0 | 5 | 0 | 2 | 0 | 1 | 0 | 1 | 0 | 24 | 0 | |
| รวม | 30 | 0 | 6 | 0 | 4 | 0 | 3 | 0 | 1 | 0 | 44 | 0 | ||
| โรมา (ยืมตัว) | 2015-16 | เซเรียอา | 33 | 3 | 1 | 0 | - | 8 | 0 | 0 | 0 | 42 | 3 | |
| บาร์เซโลนา | 2016-17 | ลาลิกา | 17 | 0 | 3 | 1 | - | 4 | 0 | 2 | 0 | 26 | 1 | |
| 2017-18 | ลาลิกา | 12 | 0 | 4 | 0 | - | 3 | 1 | 1 | 0 | 20 | 1 | ||
| รวม | 29 | 0 | 7 | 1 | - | 7 | 1 | 3 | 0 | 46 | 2 | |||
| เอฟเวอร์ตัน | 2018-19 | พรีเมียร์ลีก | 35 | 4 | 1 | 0 | 1 | 0 | - | - | 37 | 4 | ||
| 2019-20 | พรีเมียร์ลีก | 35 | 0 | 1 | 0 | 3 | 1 | - | - | 39 | 1 | |||
| 2020-21 | พรีเมียร์ลีก | 30 | 0 | 3 | 0 | 3 | 0 | - | - | 36 | 0 | |||
| 2021-22 | พรีเมียร์ลีก | 13 | 0 | 0 | 0 | 2 | 1 | - | - | 15 | 1 | |||
| รวม | 113 | 4 | 5 | 0 | 9 | 2 | - | - | 127 | 6 | ||||
| แอสตันวิลลา | 2021-22 | พรีเมียร์ลีก | 16 | 0 | - | - | - | - | 16 | 0 | ||||
| 2022-23 | พรีเมียร์ลีก | 28 | 1 | 1 | 0 | 2 | 1 | - | - | 31 | 2 | |||
| 2023-24 | พรีเมียร์ลีก | 33 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 12 | 1 | - | 46 | 2 | ||
| 2024-25 | พรีเมียร์ลีก | 27 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | 6 | 0 | - | 35 | 0 | ||
| รวม | 104 | 2 | 3 | 0 | 3 | 1 | 18 | 1 | - | 127 | 4 | |||
| รวมตลอดอาชีพ | 358 | 11 | 25 | 1 | 19 | 3 | 43 | 3 | 4 | 0 | 448 | 18 | ||
| ทีมชาติ | ปี | ลงสนาม | ประตู |
|---|---|---|---|
| ฝรั่งเศส | 2014 | 8 | 0 |
| 2015 | 2 | 0 | |
| 2016 | 5 | 0 | |
| 2017 | 5 | 0 | |
| 2018 | 3 | 0 | |
| 2019 | 7 | 0 | |
| 2020 | 5 | 0 | |
| 2021 | 8 | 0 | |
| 2022 | 3 | 0 | |
| 2023 | 0 | 0 | |
| 2024 | 4 | 0 | |
| รวม | 50 | 0 | |
6. รางวัล
6.1. รางวัลระดับสโมสร
; ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
- ลีกเอิง: 2013-14, 2014-15
- กุปเดอฟร็องส์: 2014-15
- กุปเดอลาลีก: 2013-14, 2014-15
- ทรอเฟเดช็องปียง: 2013, 2014, 2015
; บาร์เซโลนา
- ลาลิกา: 2017-18
- โกปาเดลเรย์: 2016-17, 2017-18
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2016
6.2. รางวัลระดับทีมชาติ
; ฝรั่งเศส U20
- ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี: 2013
; ฝรั่งเศส
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก: 2020-21
- รองชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: 2016
6.3. รางวัลส่วนบุคคล
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเอฟเวอร์ตัน: 2018-19 (ร่วมกับอิดริสซา เกย์)
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมเอฟเวอร์ตัน: 2018-19 (ร่วมกับอิดริสซา เกย์)