1. ภาพรวม
นิซาร์ มะฮ์รูส (نِزَار حَمَد مَحرُوسนิซาร์ ฮะมัด มะฮ์รูสภาษาอาหรับ) ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ อะบู ฮะมัด เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1963 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวซีเรียและเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียง เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากเส้นทางอาชีพอันยาวนานที่เต็มไปด้วยความสำเร็จทั้งในระดับฟุตบอลทีมชาติและฟุตบอลสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง ตลอดอาชีพการคุมทีม มะฮ์รูสได้นำพาทีมสู่ตำแหน่งแชมป์มากมาย และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของนักฟุตบอลและสโมสรในภูมิภาคนี้ บทความนี้จะสำรวจชีวิตช่วงต้น อาชีพการคุมทีม สถิติ เกียรติประวัติ รวมถึงผลกระทบและความท้าทายที่เขาได้เผชิญ ซึ่งรวมถึงข้อถกเถียงเกี่ยวกับการถูกตัดสิทธิ์ของฟุตบอลทีมชาติซีเรียที่เขาเคยคุม
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
นิซาร์ มะฮ์รูส เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1963 ที่ประเทศซีเรีย เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอลด้วยชื่อเล่นว่า "อะบู ฮะมัด" ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม มะฮ์รูสเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในวงการฟุตบอลในฐานะนักฟุตบอล ซึ่งสร้างรากฐานสำคัญให้กับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเกมและกลยุทธ์การแข่งขัน ที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นผู้จัดการทีมในภายหลัง
3. อาชีพผู้จัดการทีม
นิซาร์ มะฮ์รูส มีเส้นทางอาชีพที่โดดเด่นในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอล โดยได้คุมทั้งทีมชาติและสโมสรหลายแห่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและนำพาทีมสู่ความสำเร็จในบริบทที่แตกต่างกัน
3.1. การคุมทีมชาติ
นิซาร์ มะฮ์รูส ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติซีเรียในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 ในช่วงที่เขาคุมทีมชาติซีเรีย ทีมได้แสดงผลงานที่น่าประทับใจ แต่ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2011 เขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ฟีฟ่าประกาศตัดสิทธิ์ซีเรียออกจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก (เอเอฟซี) เนื่องจากมีการส่งผู้เล่นที่ไม่มีสิทธิ์ลงสนาม เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความโปร่งใสและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งนำไปสู่การยุติบทบาทของเขาในครั้งนั้น
ต่อมาในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 มะฮ์รูสได้กลับมาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติซีเรียอีกครั้ง เพื่อเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก (เอเอฟซี) รอบที่สาม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทีมต้องการประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากเขา อย่างไรก็ตาม เขาได้ยุติบทบาทในตำแหน่งนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
3.2. การคุมทีมสโมสร
นอกเหนือจากการคุมทีมชาติแล้ว นิซาร์ มะฮ์รูสยังมีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการคุมทีมสโมสรฟุตบอลหลายแห่งในภูมิภาค โดยเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมสโมสรกับอัล-จาอิช เอสซี (ซีเรีย)และอัล-วาห์ดา เอสซี (ซีเรีย)ในประเทศซีเรีย
จากนั้นเขายังได้คุมทีมในประเทศอื่นๆ เช่น อัล-ฟัยซอลี เอสซี ในจอร์แดน, เออร์บิล เอสซี ในอิรัก (ซึ่งเขาคุมถึงสองครั้ง), นัจรอน เอสซี และฮัตตา คลับในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, แทต ราส เอสซี และอัล-ญะซีเราะห์ เอสซี (อัมมาน) ในจอร์แดน, เอซี ตริโปลี และอัล อันซาร์ เอฟซี ในเลบานอน ประสบการณ์ที่หลากหลายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเขาในการนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จในสภาพแวดล้อมทางฟุตบอลที่แตกต่างกัน
4. สถิติการคุมทีม
ตารางด้านล่างนี้แสดงสถิติการคุมทีมของนิซาร์ มะฮ์รูส ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพจนถึงการแข่งขันนัดสุดท้ายที่บันทึกไว้ในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2022
ทีม | จาก | ถึง | สถิติ | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
จำนวนนัดที่ลงเล่น | จำนวนนัดที่ชนะ | จำนวนนัดที่เสมอ | จำนวนนัดที่แพ้ | เปอร์เซ็นต์การชนะ | |||
อัล-ฟัยซอลี เอสซี | 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 | 30 เมษายน ค.ศ. 2009 | 16 | 5 | 5 | 6 | 31.3% |
อัล-วาห์ดา เอสซี (ซีเรีย) | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 | 19 ธันวาคม ค.ศ. 2011 | 48 | 18 | 15 | 15 | 37.5% |
ซีเรีย | 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 | 18 สิงหาคม ค.ศ. 2011 | 7 | 5 | 2 | 0 | 71.4% |
เออร์บิล เอสซี | 12 มกราคม ค.ศ. 2012 | 14 ธันวาคม ค.ศ. 2012 | 43 | 27 | 13 | 3 | 62.8% |
นัจรอน เอสซี | 10 มกราคม ค.ศ. 2014 | 1 มิถุนายน ค.ศ. 2014 | 10 | 2 | 4 | 4 | 20.0% |
แทต ราส เอสซี | 8 มิถุนายน ค.ศ. 2014 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 2014 | 6 | 2 | 2 | 2 | 33.3% |
อัล-ฟัยซอลี เอสซี | 27 มกราคม ค.ศ. 2015 | 19 เมษายน ค.ศ. 2015 | 8 | 1 | 5 | 2 | 12.5% |
เอซี ตริโปลี | 25 มกราคม ค.ศ. 2016 | 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 | 19 | 6 | 4 | 9 | 31.6% |
อัล-ญะซีเราะห์ เอสซี (อัมมาน) | 24 กันยายน ค.ศ. 2016 | 19 กันยายน ค.ศ. 2017 | 39 | 19 | 13 | 7 | 48.7% |
ฮัตตา คลับ | 7 ตุลาคม ค.ศ. 2017 | 5 มีนาคม ค.ศ. 2018 | 21 | 4 | 5 | 12 | 19.0% |
เอมิเรตส์ คลับ | 30 มีนาคม ค.ศ. 2018 | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 | 5 | 2 | 2 | 1 | 40.0% |
อัล-ญะซีเราะห์ เอสซี (อัมมาน) | 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 | 20 ธันวาคม ค.ศ. 2018 | 14 | 9 | 1 | 4 | 64.3% |
อัล อันซาร์ เอฟซี | 28 มิถุนายน ค.ศ. 2019 | 19 มกราคม ค.ศ. 2020 | 8 | 5 | 1 | 2 | 62.5% |
ซีเรีย | 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 | 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 | 7 | 0 | 2 | 5 | 0.0% |
เออร์บิล เอสซี | 23 ธันวาคม ค.ศ. 2021 | 16 ตุลาคม ค.ศ. 2022 | 25 | 11 | 7 | 7 | 44.0% |
รวม | 276 | 116 | 81 | 79 | 42.0% |
5. เกียรติประวัติ
นิซาร์ มะฮ์รูส ได้รับเกียรติประวัติมากมายในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการนำพาทีมสู่ความสำเร็จทั้งในระดับลีกและถ้วยการแข่งขันต่างๆ ทั่วภูมิภาค
5.1. ในฐานะผู้จัดการทีม
อัล-จาอิช เอสซี (ซีเรีย)
- ซีเรียนคัพ ชนะเลิศ: ซีเรียนคัพ 1996-97
- ซีเรียนพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศ: ซีเรียนพรีเมียร์ลีก 2000-01
อัล-วาห์ดา เอสซี (ซีเรีย)
- ซีเรียนลีกดิวิชัน 1 ชนะเลิศ: ซีเรียนลีกดิวิชัน 1 1997-98
ชะบาบ อัล-ออร์ดอน เอสซี
- จอร์แดนโปรลีก ชนะเลิศ: จอร์แดนโปรลีก 2005-06
- จอร์แดนเอฟเอคัพ ชนะเลิศ: จอร์แดนเอฟเอคัพ 2005-06, จอร์แดนเอฟเอคัพ 2006-07
- จอร์แดนชีลด์คัพ ชนะเลิศ: จอร์แดนชีลด์คัพ 2006-07
- เอเอฟซีคัพ ชนะเลิศ: เอเอฟซีคัพ 2007-08
- จอร์แดนซูเปอร์คัพ ชนะเลิศ: จอร์แดนซูเปอร์คัพ 2007-08
เออร์บิล เอสซี
- อิรักพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศ: อิรักพรีเมียร์ลีก 2011-12
- เอเอฟซีคัพ รองชนะเลิศ: เอเอฟซีคัพ 2011-12
อัล-ญะซีเราะห์ เอสซี (อัมมาน)
- จอร์แดนโปรลีก รองชนะเลิศ: จอร์แดนโปรลีก 2016-17
- จอร์แดนเอฟเอคัพ รองชนะเลิศ: จอร์แดนเอฟเอคัพ 2016-17
- จอร์แดนซูเปอร์คัพ รองชนะเลิศ: จอร์แดนซูเปอร์คัพ 2017-18
- จอร์แดนชีลด์คัพ รองชนะเลิศ: จอร์แดนชีลด์คัพ 2017-18
อัล อันซาร์ เอฟซี
- เลบานีสเอลิตคัพ รองชนะเลิศ: เลบานีสเอลิตคัพ 2019-20
6. มรดกและการตอบรับ
นิซาร์ มะฮ์รูส ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ในวงการฟุตบอลของซีเรียและทั่วทั้งตะวันออกกลาง ด้วยผลงานที่โดดเด่นและความท้าทายที่เขาเผชิญ การตอบรับต่ออาชีพของเขามีทั้งความชื่นชมในความสำเร็จและการตั้งคำถามในบางเหตุการณ์
6.1. ความสำเร็จและคุณูปการ
มะฮ์รูสได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความสามารถในการนำพาทีมคว้าแชมป์ในลีกและถ้วยการแข่งขันต่างๆ ทั่วภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการเป็นแชมป์ลีกในซีเรีย จอร์แดน และอิรัก นอกจากนี้ เขายังพาทีมชะบาบ อัล-ออร์ดอน เอสซีคว้าแชมป์เอเอฟซีคัพ ซึ่งเป็นความสำเร็จระดับทวีปอันโดดเด่น ความสำเร็จเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความสามารถทางกลยุทธ์และการบริหารจัดการทีมที่ยอดเยี่ยมของเขา เขามีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพของผู้เล่นในสโมสรที่เขาดูแล ทำให้หลายทีมสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นได้
6.2. ข้อถกเถียง
เหตุการณ์สำคัญที่เป็นข้อถกเถียงในอาชีพของนิซาร์ มะฮ์รูส คือการที่เขาลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติซีเรียในปี 2011 หลังจากฟีฟ่าตัดสินใจตัดสิทธิ์ทีมชาติซีเรียออกจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก (เอเอฟซี) เนื่องจากมีการใช้ผู้เล่นที่ไม่มีสิทธิ์ลงสนาม เหตุการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดข้อกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรฟุตบอลในประเทศ การตัดสิทธิ์ดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อโอกาสของทีมชาติซีเรียในการเข้าสู่รอบต่อไปของฟุตบอลโลกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการบริหารจัดการที่รัดกุมและการปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความยุติธรรมและความน่าเชื่อถือของการแข่งขันฟุตบอลในระดับสากล เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเพื่อให้มั่นใจว่ากีฬาจะดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม