1. ภาพรวม

นาดิน เคสเลอร์ (Nadine Keßlerนาดีน เคสเลอร์ภาษาเยอรมัน; เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1988) เป็นอดีตนักฟุตบอลหญิงชาวเยอรมนีที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลหญิงของยูฟ่า เธอเป็นที่รู้จักจากความสามารถในการเล่นฟุตบอลระดับสูง ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย รวมถึงรางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีของฟีฟ่า ในปี ค.ศ. 2014 และรางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของยุโรปของยูฟ่าในปีเดียวกัน หลังจากการประกาศอำลาวงการฟุตบอลเนื่องจากอาการบาดเจ็บ เธอยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในฐานะผู้บริหารของยูฟ่า
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
นาดิน เคสเลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1988 ที่เมืองลันด์ชทูล เยอรมนีตะวันตก และเติบโตในเมืองใกล้เคียงคือ เวเซิลแบร์ก ที่นั่นเธอเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา ในวัยเยาว์ เธอเริ่มเล่นฟุตบอลในสโมสรของเด็กผู้ชาย ได้แก่ เอสเฟา แฮร์ชแบร์ก, เอสเฟา แฮร์แมร์ชแบร์ก และเอสเซ เวเซิลแบร์ก เมื่ออายุ 16 ปี ในปี ค.ศ. 2004 เธอได้เริ่มเล่นให้กับทีมหญิงของสโมสร1. เอฟซี ซาร์บรึคเคินในลีกระดับสอง และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมในช่วงปี ค.ศ. 2006 ถึง ค.ศ. 2007
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายในปี ค.ศ. 2007 เคสเลอร์ได้เข้ารับการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานในกองทัพเยอรมัน (Bundeswehr) ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 เธอประจำการอยู่ในกลุ่มส่งเสริมกีฬาที่โรงเรียนกีฬาของกองทัพในวาเรินดอร์ฟ และดำรงตำแหน่งสิบโท นอกจากนี้ เธอยังเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเยอรมนีเพื่อการป้องกันและการจัดการสุขภาพ (DHfPG) ซึ่งเธอได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (Bachelor of Arts) สาขาเศรษฐศาสตร์สุขภาพในปี ค.ศ. 2012 และในปี ค.ศ. 2014 เธอยังได้ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
3. อาชีพสโมสร
ในเส้นทางอาชีพสโมสรของนาดิน เคสเลอร์ เธอได้สร้างชื่อเสียงและคว้าความสำเร็จมากมายกับสโมสรชั้นนำในเยอรมนี รวมถึงการได้รับรางวัลส่วนตัวอันทรงเกียรติ
3.1. 1. เอฟซี ซาร์บรึคเคิน
นาดิน เคสเลอร์ เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลระดับสโมสรกับ1. เอฟซี ซาร์บรึคเคิน โดยย้ายมาร่วมทีมในปี ค.ศ. 2004 เมื่ออายุ 16 ปี และเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ถึง ค.ศ. 2009 ในช่วงเวลาที่เธออยู่กับสโมสรนี้ เธอมีบทบาทสำคัญในการพาทีมชนะเลิศ 2. ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา (ลีกหญิงระดับสอง) ถึง 2 ครั้ง ในฤดูกาล 2006-07 และ 2008-09 นอกจากนี้ เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ DFB-โพคาล หญิง ในฤดูกาล 2007-08 แต่พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย ในฤดูกาล 2005-06 เธอยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดใน 2. ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา โดยทำได้ถึง 36 ประตู
3.2. 1. เอฟเอฟซี ทูร์บิเนอ พ็อทซ์ดัม
ในปี ค.ศ. 2009 เมื่ออายุ 21 ปี เคสเลอร์ได้เซ็นสัญญากับ1. เอฟเอฟซี ทูร์บิเนอ พ็อทซ์ดัม ซึ่งเป็นทีมในลีกสูงสุดของเยอรมนีอย่างฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2009-10 เธอช่วยให้ทีมจบฤดูกาลปกติด้วยการเป็นแชมป์ลีก โดยมีสถิติชนะ 19 เสมอ 2 แพ้ 1 และเธอทำประตูได้ 11 ประตู ในฤดูกาลเดียวกัน ทีมยังสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะออแล็งปิก ลียง ในการดวลลูกโทษตัดสิน นอกจากนี้ เธอยังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์DFB-ฮัลเลนโพคาล ในปี ค.ศ. 2010 และแชมป์ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกาอีกครั้งในฤดูกาล 2010-11
3.3. เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก
ในปี ค.ศ. 2011 เคสเลอร์ได้ย้ายไปร่วมทีมเฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพนักฟุตบอลของเธอ ในฤดูกาล 2011-12 ทีมจบอันดับสองในบุนเดสลีกา โดยเคสเลอร์ทำได้ 11 ประตู ซึ่งเป็นอันดับสี่ของผู้ทำประตูสูงสุดในลีก ในฤดูกาล 2012-13 เธอทำได้ 8 ประตู และช่วยให้โวล์ฟสบวร์กคว้าแชมป์ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เธอยังเป็นกัปตันทีมที่นำทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลเดียวกัน หลังจากเอาชนะออแล็งปิก ลียง 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
ปี ค.ศ. 2014 ถือเป็นปีที่โดดเด่นที่สุดของเธอ โดยเคสเลอร์นำโวล์ฟสบวร์กคว้าแชมป์ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา และยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง ทำให้โวล์ฟสบวร์กเป็นทีมหญิงจากเยอรมนีทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าเทรเบิล (แชมป์ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา, DFB-โพคาล หญิง และยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีก) ได้สำเร็จ นอกจากนี้ ในฤดูกาล 2014-15 เธอยังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ DFB-โพคาล หญิงอีกครั้ง
ในด้านรางวัลส่วนตัว เคสเลอร์ได้รับรางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของยุโรปของยูฟ่าในปี ค.ศ. 2014 และในเดือนมกราคม ค.ศ. 2015 เธอได้รับรางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีของฟีฟ่าในพิธีฟีฟ่าบาลงดอร์ 2014 โดยได้รับคะแนนโหวต 17.52% ซึ่งเอาชนะมาร์ทา (14.16%) และแอบบี แวมแบช (13.33%) ในการรับรางวัล เธอได้กล่าวว่า "นี่คือรางวัลสำหรับการทำงานหนัก การแสดงผลงานที่ดี และเส้นทางการพัฒนาที่ดี ฉันรู้ว่ามันเป็นถ้วยรางวัลสำหรับบุคคล แต่ฉันจะไม่มีทางได้รับมันเลยถ้าไม่มีเพื่อนร่วมทีมของฉัน" นอกจากนี้ เธอยังได้รับรางวัล IFFHS World's Women Best Playmaker ประจำปี ค.ศ. 2014 ด้วย
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 เธอได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับโวล์ฟสบวร์กเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่จะประกาศอำลาวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2016
4. อาชีพระดับชาติ
นาดิน เคสเลอร์ เป็นตัวแทนของประเทศเยอรมนีในระดับทีมเยาวชนและทีมชาติชุดใหญ่ โดยมีบทบาทสำคัญในหลายการแข่งขัน
4.1. ทีมชาติชุดเยาวชน
เคสเลอร์เป็นตัวแทนของทีมชาติเยอรมนีในระดับเยาวชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 ถึง ค.ศ. 2008 โดยเธอได้ลงเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี (U-15) จำนวน 2 นัด ทำได้ 1 ประตู ในปี ค.ศ. 2003 จากนั้นได้เล่นให้กับทีม U-17 ในปี ค.ศ. 2003-2004 จำนวน 15 นัด ทำได้ 3 ประตู และคว้าแชมป์ U-17 นอร์ดิกคัพ ในปี ค.ศ. 2005 ต่อมา เธอได้เข้าร่วมทีม U-19 ในปี ค.ศ. 2004-2007 ลงเล่น 23 นัด ทำได้ 10 ประตู และคว้าแชมป์ยูฟ่า วีเมนส์ ยู-19 แชมเปียนชิป 2 สมัย ในปี ค.ศ. 2006 และ 2007 ในปี ค.ศ. 2008 เธอเป็นส่วนหนึ่งของทีม U-20 โดยลงเล่น 10 นัด ทำได้ 2 ประตู และคว้าอันดับสามในฟีฟ่า ยู-17 วีเมนส์ เวิลด์คัพ
4.2. ทีมชาติชุดใหญ่
เคสเลอร์ลงสนามเปิดตัวให้กับทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ในการแข่งขันอัลการ์ฟคัพ 2010 พบกับฟินแลนด์ โดยเธอลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 46 แทนที่เลนา เกิสลิง และทำประตูแรกในนามทีมชาติได้ในนาทีที่ 77 ซึ่งเป็นชัยชนะ 7-0 ของเยอรมนี
เธอมีบทบาทสำคัญในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับเยอรมนีในยูฟ่า วีเมนส์ ยูโร 2013 ซึ่งช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นสมัยที่หกติดต่อกัน ด้วยการเอาชนะนอร์เวย์ 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม เคสเลอร์พลาดโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2015 ที่ประเทศแคนาดา เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ในปี ค.ศ. 2014 เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเยอรมนีที่คว้าแชมป์อัลการ์ฟคัพ
4.3. ประตูในระดับนานาชาติ
รายการประตูในระดับนานาชาติที่นาดิน เคสเลอร์ทำได้สำหรับทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่: (ในคอลัมน์คะแนน แสดงผลสกอร์หลังจากที่เคสเลอร์ทำประตูได้)
หมายเลข | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | คะแนน | ผลการแข่งขัน | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 | ปาร์ชาล, โปรตุเกส | ฟินแลนด์ | 6-0 | 7-0 | อัลการ์ฟคัพ 2010 |
2 | 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 | สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส | ฝรั่งเศส | 2-3 | 3-3 | กระชับมิตร |
3 | 3-3 | |||||
4 | 11 มีนาคม ค.ศ. 2013 | ลากูช, โปรตุเกส | นอร์เวย์ | 2-0 | 2-0 | อัลการ์ฟคัพ 2013 |
5 | 21 กันยายน ค.ศ. 2013 | คอตบุส, เยอรมนี | รัสเซีย | 2-0 | 9-0 | ฟุตบอลโลกหญิง 2015 รอบคัดเลือก |
6 | 8-0 | |||||
7 | 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 | ฌิลินา, สโลวาเกีย | สโลวาเกีย | 1-0 | 6-0 | ฟุตบอลโลกหญิง 2015 รอบคัดเลือก |
8 | 4-0 | |||||
9 | 12 มีนาคม ค.ศ. 2014 | ฟาโร, โปรตุเกส | ญี่ปุ่น | 1-0 | 3-0 | อัลการ์ฟคัพ 2014 |
10 | 8 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 | อ็อสนาบรึค, เยอรมนี | สโลวาเกีย | 4-0 | 9-1 | ฟุตบอลโลกหญิง 2015 รอบคัดเลือก |
5. การอำลาวงการ
นาดิน เคสเลอร์ ประกาศอำลาอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2016 ขณะมีอายุ 28 ปี สาเหตุหลักของการตัดสินใจครั้งนี้มาจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่รบกวนเธอมาอย่างยาวนาน ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถกลับมาเล่นในระดับสูงสุดได้อย่างเต็มที่ อาการบาดเจ็บเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอต้องยุติเส้นทางในอาชีพนักฟุตบอลมืออาชีพ
6. อาชีพหลังการเป็นนักฟุตบอล
หลังจากประกาศอำลาวงการฟุตบอล นาดิน เคสเลอร์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิง ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 เธอเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลหญิงของยูฟ่า ซึ่งเป็นบทบาทที่ทำให้เธอมีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางและส่งเสริมการเติบโตของฟุตบอลหญิงในยุโรป เธอมีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบใหม่ของยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีก และมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานและโอกาสสำหรับนักฟุตบอลหญิงในอนาคต
7. เกียรติประวัติและความสำเร็จ
ตลอดอาชีพนักฟุตบอล นาดิน เคสเลอร์ ได้รับเกียรติประวัติและความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงรางวัลส่วนตัวที่สะท้อนถึงความสามารถอันโดดเด่นของเธอ
7.1. เกียรติประวัติระดับสโมสร
- 1. เอฟซี ซาร์บรึคเคิน
- 2. ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา: ชนะเลิศ 2 สมัย (2006-07, 2008-09)
- DFB-โพคาล หญิง: รองชนะเลิศ 1 สมัย (2007-08)
- 1. เอฟเอฟซี ทูร์บิเนอ พ็อทซ์ดัม
- ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา: ชนะเลิศ 2 สมัย (2009-10, 2010-11)
- ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีก: ชนะเลิศ 1 สมัย (2009-10)
- DFB-ฮัลเลนโพคาล: ชนะเลิศ 1 สมัย (2010)
- เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก
- ฟรัวเอิน-บุนเดสลีกา: ชนะเลิศ 2 สมัย (2012-13, 2013-14)
- ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปียนส์ลีก: ชนะเลิศ 2 สมัย (2012-13, 2013-14)
- DFB-โพคาล หญิง: ชนะเลิศ 2 สมัย (2012-13, 2014-15)
7.2. เกียรติประวัติระดับชาติ
- ทีมชาติเยอรมนี รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
- U-17 นอร์ดิกคัพ: ชนะเลิศ 1 สมัย (2005)
- ทีมชาติเยอรมนี รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
- ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี: ชนะเลิศ 2 สมัย (2006, 2007)
- ทีมชาติเยอรมนี รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (ฟุตบอลโลก)
- ฟุตบอลโลกหญิงเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี: อันดับสาม 1 สมัย (2008)
- ทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่
- ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: ชนะเลิศ 1 สมัย (2013)
- อัลการ์ฟคัพ: ชนะเลิศ 1 สมัย (2014)
7.3. รางวัลส่วนตัว
- เหรียญฟริตซ์วัลเทอร์: เหรียญเงิน (2006)
- นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของยุโรปของยูฟ่า: (2014)
- นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีของฟีฟ่า: (2014)
- IFFHS ผู้เล่นหญิงยอดเยี่ยมของโลกในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์: (2014)
- IFFHS ทีมหญิงยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษของยูฟ่า: 2011-2020