1. ชีวิต
คาโรล บีแยแลตสกี มีเส้นทางอาชีพนักกีฬาที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาชนะอาการบาดเจ็บที่รุนแรงจนกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง
1.1. อาชีพนักกีฬา
บีแยแลตสกีเริ่มต้นและสร้างชื่อเสียงในเส้นทางอาชีพแฮนด์บอลทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นและเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอด
1.1.1. อาชีพกับสโมสร
คาโรล บีแยแลตสกี เริ่มต้นอาชีพนักกีฬาแฮนด์บอลและใช้เวลาส่วนใหญ่กับสโมสร KS Kielce ในโปแลนด์ ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยคว้าแชมป์โปแลนด์ซูเปอร์ลีกาได้ถึง 7 สมัย ได้แก่ ฤดูกาล 2002-03, 2012-13, 2013-14, 2014-15, 2015-16, 2016-17 และ 2017-18 นอกจากนี้ เขายังคว้าแชมป์โปแลนด์คัพในปี 2009 และเป็นส่วนหนึ่งของทีม Vive Kielce ที่คว้าแชมป์EHF แชมเปียนส์ลีกอันทรงเกียรติในฤดูกาล 2015-16 ซึ่งเป็นความสำเร็จสูงสุดในระดับสโมสรยุโรป
ก่อนหน้านั้น บีแยแลตสกีเคยย้ายไปเล่นในบุนเดิสลีกาของเยอรมนี โดยเล่นให้กับสโมสร SC Magdeburg ซึ่งเขาคว้าแชมป์EHF คัพในฤดูกาล 2006-07 และยังเคยเล่นให้กับสโมสร Rhein-Neckar Löwen อีกด้วย
1.1.2. อาชีพกับทีมชาติ
บีแยแลตสกีเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติโปแลนด์ โดยลงสนามให้กับทีมชาติระหว่างปี 2002 ถึง 2017 รวมทั้งสิ้น 255 นัด เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับแฮนด์บอลโปแลนด์ ด้วยการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันแฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2007 และคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันแฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2009 และแฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2015
เขายังได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง และโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร ซึ่งในโอลิมปิกปี 2016 นั้น บีแยแลตสกีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในการแข่งขันแฮนด์บอลชาย ด้วยจำนวน 55 ประตู
1.1.3. การบาดเจ็บครั้งสำคัญและการกลับมาลงสนาม
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2010 คาโรล บีแยแลตสกี ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาอย่างรุนแรงระหว่างการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมชาติโครเอเชีย หลังจากการตรวจเพิ่มเติมและการผ่าตัดตาหลายครั้ง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าดวงตาข้างซ้ายของเขาจะยังคงบอดสนิท แม้ว่าในตอนแรกเขาจะประกาศว่าอาชีพนักกีฬาของตนได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นและกำลังใจที่แข็งแกร่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะสานต่ออาชีพนักกีฬาต่อไป เขาได้กลับมาลงสนามอีกครั้งโดยสวมแว่นตาพิเศษเพื่อป้องกันดวงตา และในการแข่งขันบุนเดิสลีกานัดแรกหลังจากได้รับบาดเจ็บ เขาสามารถทำประตูได้ถึง 11 ประตู ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ที่ยังคงอยู่

1.1.4. การเลิกเล่น
หลังจากประสบความสำเร็จและเผชิญความท้าทายมากมายในอาชีพ คาโรล บีแยแลตสกี ได้ประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติโปแลนด์เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2012 ภายหลังจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ไม่ประสบความสำเร็จของโปแลนด์ และในวันที่ 20 พฤษภาคม 2018 เขาได้ประกาศเลิกเล่นในฐานะนักกีฬาแฮนด์บอลอาชีพอย่างเป็นทางการ เป็นการปิดฉากเส้นทางอันยาวนานและน่าประทับใจในวงการแฮนด์บอล
2. ความสำเร็จและรางวัลที่สำคัญ
ตลอดอาชีพนักกีฬา คาโรล บีแยแลตสกี ได้รับความสำเร็จและรางวัลมากมาย ทั้งในระดับส่วนบุคคล สโมสร และทีมชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถอันโดดเด่นของเขา
2.1. รางวัลส่วนบุคคล
- ผู้ทำประตูสูงสุดในการแข่งขันแฮนด์บอลชายโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร (55 ประตู)
2.2. รางวัลระดับสโมสรและการแข่งขันระหว่างประเทศ
- กับ PGE Vive Kielce
- โปแลนด์ซูเปอร์ลีกา: 2002-03, 2012-13, 2013-14, 2014-15, 2015-16, 2016-17, 2017-18
- โปแลนด์คัพ: 2009
- EHF แชมเปียนส์ลีก: 2015-16
- กับ SC Magdeburg
- EHF คัพ: 2006-07
- กับ ทีมชาติโปแลนด์
- แฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2007: เหรียญเงิน
- แฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2009: เหรียญทองแดง
- แฮนด์บอลชายชิงแชมป์โลก 2015: เหรียญทองแดง
3. เครื่องราชอิสริยาภรณ์และการยกย่องระดับชาติ
คาโรล บีแยแลตสกี ได้รับการยกย่องจากรัฐบาลโปแลนด์สำหรับคุณูปการในวงการกีฬา โดยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่สำคัญหลายรายการ:
- 2007 เครื่องอิสริยาภรณ์กางเขนแห่งคุณธรรม ชั้นทอง (Gold Cross of Merit)
- 2015 เครื่องอิสริยาภรณ์ฟื้นฟูโปแลนด์ ชั้นอัศวิน (Knight's Cross of Polonia Restituta)
4. อิทธิพลและการประเมิน
คาโรล บีแยแลตสกี ไม่เพียงแต่เป็นนักกีฬาแฮนด์บอลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความไม่ยอมแพ้ การกลับมาลงสนามหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาอย่างรุนแรงจนตาบอดข้างหนึ่ง ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากทั่วโลก เรื่องราวของเขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความรักในกีฬาอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยกย่องและมีอิทธิพลอย่างมากในวงการแฮนด์บอลโปแลนด์และระดับนานาชาติ
5. อื่นๆ
นอกจากความสำเร็จในฐานะนักกีฬาแล้ว คาโรล บีแยแลตสกี ยังได้รับเกียรติให้เป็นผู้ถือธงชาติโปแลนด์ในพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงสถานะและความสำคัญของเขาในฐานะบุคคลสาธารณะและตัวแทนของประเทศ