1. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพเยาวชน
เฟรเดริก รีส รอนนาว เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1992 ที่เมืองฮอร์เซนส์ ประเทศเดนมาร์ก เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลในฐานะผู้เล่นเยาวชนกับสโมสร สเตนสบัลเล ไอเค ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมเยาวชนของ เอซี ฮอร์เซนส์ เมื่ออายุได้ 16 ปี ตลอดช่วงเวลาในทีมเยาวชน เขาสามารถพัฒนาฝีมือจนเป็นที่จับตามองและได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติเดนมาร์ก รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และได้เป็นผู้รักษาประตูตัวเลือกแรกของทีม
2. อาชีพสโมสร
เฟรเดริก รอนนาวได้สร้างเส้นทางอาชีพกับหลายสโมสร ทั้งในประเทศเดนมาร์กและในบุนเดสลีกาของเยอรมนี
2.1. เอซี ฮอร์เซนส์
รอนนาวเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ของเอซี ฮอร์เซนส์ เมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2011 ในการแข่งขันเดนิชคัพกับสโมสร ฮอลสเตโบร ซึ่งฮอร์เซนส์เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 5-0 ด้วยผลงานที่โดดเด่น ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฮอร์เซนส์ประจำฤดูกาล 2012-13 หลังจากที่ฮอร์เซนส์ตกชั้นจากเดนิช ซูเปอร์ลีกา ไปสู่เดนิช เฟิร์ส ดิวิชั่น เอเย่นต์ของเขาคือ จอห์น ซีเวเบค อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์ก ได้แสดงความไม่พอใจที่รอนนาวต้องเล่นในดิวิชั่น 1 ส่งผลให้ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 รอนนาวย้ายไปร่วมสโมสรเอสบเยร์ก เอฟบี ในเดนิช ซูเปอร์ลีกา ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งฤดูกาล เพื่อทดแทนการย้ายออกไปของลูคัส ฮราเด็คกี
2.2. บรอนด์บี ไอเอฟ
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 รอนนาวได้เซ็นสัญญาเป็นเวลาสี่ปีกับสโมสร บรอนด์บี ไอเอฟ เขาได้ลงเล่นสองนัดในยูฟ่ายูโรปาลีก แต่บรอนด์บีก็ตกรอบไปโดยพีเอโอเค ในลีกฤดูกาลนั้นเขาลงสนามไป 33 นัด และทีมจบอันดับที่สี่
ในฤดูกาล 2016-17 รอนนาวลงเล่นเจ็ดนัดในรอบคัดเลือกยูโรปาลีก และถูกไล่ออกหนึ่งครั้ง ก่อนที่บรอนด์บีจะตกรอบโดยพานาธิไนกอส เขายังได้ลงเล่นสามครั้งในเดนิชคัพ และลงสนามรวม 34 นัดในฤดูกาลปกติและรอบเพลย์ออฟแชมเปียนชิป ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับบรอนด์บี (2017-18) ทีมจบอันดับสองในลีก และสามารถคว้าแชมป์เดนิชคัพได้สำเร็จ โดยเอาชนะซิลเคบอร์ก ไอเอฟ 3-1 ภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ช อเล็กซานเดอร์ ซอร์นิเกอร์
2.3. ไอน์ทรัคต์แฟรงก์เฟิร์ต
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 มีการประกาศว่ารอนนาวจะย้ายไปร่วมทีมไอน์ทรัคต์แฟรงก์เฟิร์ตในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นการย้ายตามรอยเท้าของลูคัส ฮราเด็คกี อีกครั้ง เขาเปิดตัวกับแฟรงก์เฟิร์ตในเดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ 2018 เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 แม้จะถูกดึงตัวเข้ามาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงและได้ลงเล่นในสามเกมแรกของไอน์ทรัคต์ แต่เนื่องจากผลงานที่ไม่มั่นคง แฟรงก์เฟิร์ตจึงตัดสินใจยืมเควิน ทรัปป์จากปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก่อนปิดตลาดซื้อขายช่วงฤดูร้อน ทำให้รอนนาวเสียตำแหน่งตัวจริงไป
ในฤดูกาลแรกของเขา (2018-19) รอนนาวลงเล่นรวมสองนัดในลีกและยูฟ่ายูโรปาลีก ซึ่งแฟรงก์เฟิร์ตสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ หลังจากฤดูกาล 2018-19 ทรัปป์ได้เซ็นสัญญาถาวรกับทีม แต่ก็ได้รับบาดเจ็บและต้องพักยาวเกือบตลอดครึ่งแรกของฤดูกาล 2019-20 ทำให้รอนนาวได้กลับมาลงสนามแทนและทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
2.3.1. การยืมตัวไปชาลเก้ 04
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2020 รอนนาวย้ายไปร่วมทีมชาลเก้ 04 ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี ในช่วงแรก เขาได้ลงสนามเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงแทนราล์ฟ แฟร์มันน์ และลงเล่นไป 7 นัดในบุนเดสลีกา อย่างไรก็ตาม เขาได้รับบาดเจ็บ และผู้จัดการทีมชาลเก้หลายคน ได้แก่ มานูเอล บอม, ฮูบ สตีเฟนส์, คริสเตียน กรอสส์ และ ดิมิตริออส กรัมโมซิส ได้กลับมาพึ่งพาแฟร์มันน์อีกครั้งหลังจากที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บ ทำให้รอนนาวได้ลงเล่นเพิ่มเพียงสี่นัดจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล หลังจากที่แฟร์มันน์กลับมาได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ท้ายที่สุดชาลเก้ก็ตกชั้นสู่2. บุนเดสลีกาเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล และรอนนาวก็กลับสู่แฟรงก์เฟิร์ต
2.4. 1. เอฟซี อูนิโอน แบร์ลิน
ในวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 รอนนาวย้ายไปร่วมทีม1. เอฟซี อูนิโอน แบร์ลิน ด้วยสัญญาเป็นระยะเวลาสามปี โดยเริ่มต้นในฐานะผู้รักษาประตูสำรองของอันเดรียส ลูเธ่ เขาเปิดตัวกับสโมสรเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ในการแข่งขันเดเอฟเบ-โพคาลกับเอสเฟา วัลด์ฮอฟ มันไฮม์ ซึ่งอูนิโอน แบร์ลินเป็นฝ่ายชนะ 3-1
3. อาชีพระดับทีมชาติ
หลังจากที่รอนนาวได้เล่นให้กับทีมชาติเดนมาร์กในชุดเยาวชนหลายรุ่น เขาก็ได้รับโอกาสให้ติดทีมชาติชุดใหญ่ของเดนมาร์กเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2016 โดยโค้ชคนใหม่ โอเกอ ฮาเรยเดอ เพื่อลงเล่นในนัดกระชับมิตรกับไอซ์แลนด์และสกอตแลนด์
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2018 รอนนาวมีชื่อติดอยู่ในทีมชาติเดนมาร์กชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2021 เขาก็ได้รับเลือกติดทีมชาติชุดลุยฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ซึ่งทีมชาติเดนมาร์กสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นัดเดียวในทัวร์นาเมนต์นั้นก็ตาม
เฟรเดริก รอนนาวได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลระดับทีมชาติเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 โดยเขาได้ประกาศผ่านทางบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว
4. สถิติอาชีพ
สถิติการลงสนามและทำประตูตลอดอาชีพนักฟุตบอลของเฟรเดริก รอนนาว
4.1. สโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชั่น | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
ฮอร์เซนส์ | 2010-11 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 0 | 0 | 0 | 0 | - | - | 0 | 0 | ||
2011-12 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 11 | 0 | 5 | 0 | - | - | 16 | 0 | |||
2012-13 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 33 | 0 | 4 | 0 | 4 | 0 | - | 41 | 0 | ||
2014-15 | เดนิช เฟิร์ส ดิวิชั่น | 12 | 0 | 0 | 0 | - | - | 12 | 0 | |||
รวม | 56 | 0 | 9 | 0 | 4 | 0 | - | 69 | 0 | |||
เอสบเยร์ก (ยืมตัว) | 2013-14 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 18 | 0 | 0 | 0 | 8 | 0 | - | 26 | 0 | |
บรอนด์บี | 2015-16 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 29 | 0 | 3 | 0 | 2 | 0 | - | 34 | 0 | |
2016-17 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 34 | 0 | 3 | 0 | 7 | 0 | - | 44 | 0 | ||
2017-18 | เดนิช ซูเปอร์ลีกา | 36 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 | - | 41 | 0 | ||
รวม | 99 | 0 | 8 | 0 | 12 | 0 | - | 119 | 0 | |||
ไอน์ทรัคต์แฟรงก์เฟิร์ต | 2018-19 | บุนเดสลีกา | 2 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 1 | 0 | 6 | 0 |
2019-20 | บุนเดสลีกา | 9 | 0 | 1 | 0 | 5 | 0 | - | 15 | 0 | ||
รวม | 11 | 0 | 2 | 0 | 7 | 0 | 1 | 0 | 21 | 0 | ||
ชาลเก้ 04 (ยืมตัว) | 2020-21 | บุนเดสลีกา | 11 | 0 | 0 | 0 | - | - | 11 | 0 | ||
อูนิโอน แบร์ลิน | 2021-22 | บุนเดสลีกา | 7 | 0 | 3 | 0 | 3 | 0 | - | 13 | 0 | |
2022-23 | บุนเดสลีกา | 29 | 0 | 2 | 0 | 10 | 0 | - | 41 | 0 | ||
2023-24 | บุนเดสลีกา | 33 | 0 | 2 | 0 | 6 | 0 | - | 41 | 0 | ||
2024-25 | บุนเดสลีกา | 18 | 0 | 2 | 0 | - | - | 20 | 0 | |||
รวม | 87 | 0 | 9 | 0 | 19 | 0 | - | 115 | 0 | |||
รวมตลอดอาชีพ | 282 | 0 | 28 | 0 | 50 | 0 | 1 | 0 | 361 | 0 |
4.2. ทีมชาติ
ทีมชาติ | ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|---|
เดนมาร์ก | 2016 | 4 | 0 |
2017 | 2 | 0 | |
2018 | 1 | 0 | |
2020 | 1 | 0 | |
2024 | 2 | 0 | |
รวม | 10 | 0 |
5. เกียรติประวัติ
เกียรติประวัติหลักที่เฟรเดริก รอนนาวได้รับตลอดอาชีพสโมสร:
บรอนด์บี
- เดนิชคัพ: 2017-18