1. Early life and background
เอริก อีฟว์ ดิ เมโก เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1963 ที่เมืองอาวีญง จังหวัดวอคลิวส์ ในแคว้นโปรวองซ์-อัลป์-โกตดาซูร์ ประเทศฝรั่งเศส เขามีส่วนสูง 180 cm เอริกเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งกองกลาง ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดในอาชีพค้าแข้ง
2. Playing career
เอริก ดิ เมโก มีอาชีพนักฟุตบอลอาชีพที่โดดเด่น ซึ่งครอบคลุมระยะเวลากว่าสองทศวรรษ เขามีชื่อเสียงในด้านความมุ่งมั่นและความสามารถในการปรับตัวในสนาม โดยเริ่มต้นจากการเป็นกองกลางก่อนจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งแบ็กซ้าย อาชีพของเขาผูกพันอย่างใกล้ชิดกับความรุ่งโรจน์และความท้าทายของสโมสรใหญ่ในฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอลิมปิก มาร์กเซย
2.1. Club career
ดิ เมโกเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรโอลิมปิก มาร์กเซย โดยเข้าร่วมทีมในปี ค.ศ. 1980 ในช่วงแรกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขายังคงหาประสบการณ์ด้วยการถูกยืมตัวไปเล่นกับสโมสรอื่น ๆ ได้แก่ อาแอส น็องซี ในฤดูกาล 1986-87 ซึ่งเขาลงเล่นไป 30 นัดและยิงได้ 1 ประตู และเอฟซี มาร์ตีก ในฤดูกาล 1987-88 ซึ่งเขาลงเล่น 31 นัดและยิงได้ 2 ประตู
หลังจากนั้น ดิ เมโกได้กลับมายังโอลิมปิก มาร์กเซยอย่างถาวรในปี ค.ศ. 1988 และกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม เขาลงเล่นในลีกเอิงอีก 153 นัดในช่วงนี้ และมีส่วนช่วยให้มาร์กเซยคว้าแชมป์ลีกในประเทศได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ฤดูกาล 1988-89, 1989-90, 1990-91 และ 1991-92 นอกจากนี้ เขายังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์กุปเดอฟร็องซ์ในฤดูกาล 1988-89 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 1992-93 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่สำคัญที่สุดในอาชีพสโมสรของเขา และเคยเป็นรองแชมป์ยูโรเปียนคัพในฤดูกาล 1990-91 อย่างไรก็ตาม อาชีพของเขากับมาร์กเซยต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อสโมสรถูกปรับตกชั้นจากลีกเอิงหลังจบฤดูกาล 1993-94 เนื่องจากความไม่โปร่งใสและคดีการทุจริตที่เกิดขึ้นภายในสโมสร
หลังจากการตกชั้นของมาร์กเซย ดิ เมโกได้ย้ายไปร่วมทีมอาแอส โมนาโกในปี ค.ศ. 1994 เขายังคงลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้กับโมนาโก จนกระทั่งเกษียณจากวงการฟุตบอลในปี ค.ศ. 1998 เมื่ออายุเกือบ 35 ปี ในช่วงเวลาที่อยู่กับโมนาโก เขาลงเล่นไป 65 นัดและยิงได้ 1 ประตู และยังคว้าแชมป์ลีกเอิงได้อีกหนึ่งสมัยในฤดูกาล 1996-97 ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดในที่สุด
2.2. International career
สำหรับฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส ดิ เมโกได้ลงเล่นทั้งหมด 23 นัดและไม่สามารถทำประตูได้ตลอดอาชีพค้าแข้งระดับนานาชาติ เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศสที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์คิรินคัพในปี ค.ศ. 1994 นอกจากนี้ เขายังอยู่ในรายชื่อผู้เล่นสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 (ยูโร 1996) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ในการแข่งขันครั้งนั้น เขาทำหน้าที่เป็นผู้เล่นสำรองให้กับบิเซนเต ลิซาราซู ซึ่งเป็นนักเตะรุ่นน้อง หลังจากการแข่งขันยูโร 1996 สิ้นสุดลง ดิ เมโกได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลระดับนานาชาติ
3. Post-retirement activities
หลังจากเกษียณจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เอริก ดิ เมโกได้ผันตัวเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขาดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลประจำเมืองมาร์แซย์ในสังกัดพรรคอูเนียงปูร์อูมูฟว์ม็องปอปูแลร์ (UMP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองกลาง-ขวาของฝรั่งเศส บทบาทนี้ทำให้เขายังคงมีส่วนร่วมในสังคมและเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลสาธารณะ
4. Honours
ตลอดอาชีพค้าแข้ง เอริก ดิ เมโกได้รับเกียรติยศและรางวัลมากมาย ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงการได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ส่วนบุคคล:
- มาร์กเซย
- ดิวิชั่น 1: 1988-89, 1989-90, 1990-91, 1991-92 (และชนะเลิศฤดูกาล 1992-93 ซึ่งภายหลังถูกริบแชมป์เนื่องจากคดีการทุจริต)
- กุปเดอฟร็องซ์: 1988-89
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก / ยูโรเปียนคัพ:
- ชนะเลิศ: 1992-93
- รองชนะเลิศ: 1990-91
- โมนาโก
- ดิวิชั่น 1: 1996-97
- ฝรั่งเศส
- คิรินคัพ: 1994
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- อัศวินแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งชาติ: 1996