1. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพเยาวชน
เจิมเมิร์ตเกิดที่ไทรน์เฟลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีพ่อแม่เป็นชาวตุรกี เขามีส่วนสูง 183 cm และน้ำหนัก 80 kg เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลคอนคอร์เดีย บาเซิล ในปี พ.ศ. 2552 เขาย้ายเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสรฟุตบอลบาเซิล และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 เจิมเมิร์ตได้ก้าวขึ้นสู่ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ภายใต้การคุมทีมของโค้ชราฟาเอล วิกกี ซึ่งเขาสามารถลงเล่นได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของเกมในฤดูกาลนั้นและพาทีมคว้าแชมป์สวิสคัพรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีมาครองได้สำเร็จ
ในฤดูกาลถัดมา (พ.ศ. 2558-2559) เจิมเมิร์ตเริ่มต้นกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และในช่วงพักฤดูหนาว เขาก็ได้ย้ายขึ้นสู่ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ซึ่งแข่งขันในสวิสพรอโมชันลีก ซึ่งเป็นลีกระดับที่สามของระบบฟุตบอลสวิตเซอร์แลนด์
2. อาชีพสโมสร
เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเอร์ไร เจิมเมิร์ตส่วนใหญ่เริ่มต้นและพัฒนาที่สโมสรฟุตบอลบาเซิล ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในลีกระดับสูงของสเปนและฝรั่งเศส รวมถึงการถูกยืมตัวเพื่อสะสมประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง
2.1. สโมสรฟุตบอลบาเซิล
เจิมเมิร์ตเป็นผู้เล่นสำคัญในระบบเยาวชนของสโมสรฟุตบอลบาเซิล และค่อยๆ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยมีส่วนร่วมกับความสำเร็จของสโมสรในช่วงแรก ก่อนที่จะถูกปล่อยยืมตัวเพื่อหาประสบการณ์ และกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างแข็งแกร่ง
2.1.1. อาชีพเยาวชนและการลงสนามช่วงต้นในทีมชุดใหญ่
ในฤดูกาล พ.ศ. 2558-2559 ทีมชุดใหญ่ของสโมสรฟุตบอลบาเซิลสามารถคว้าแชมป์สวิสซูเปอร์ลีกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกครั้งที่ 19 ของสโมสรและเป็นแชมป์ลีกติดต่อกันเป็นครั้งที่ 7 ภายใต้การคุมทีมของหัวหน้าโค้ชอูร์ส ฟิชเชอร์ เจิมเมิร์ตได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวสำรองในนัดนั้นและได้ลงเป็นตัวจริงในห้าเกมสุดท้ายของฤดูกาล เขาได้ลงสนามประเดิมการแข่งขันในลีกภายในประเทศให้กับสโมสรในเกมเยือนที่สนามเลทซีกรุนด์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 โดยบาเซิลเอาชนะสโมสรฟุตบอลซูริกไปได้ 3-2
สำหรับฤดูกาล พ.ศ. 2559-2560 เจิมเมิร์ตได้ฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ยังคงเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เพื่อสั่งสมประสบการณ์ เขาได้ลงเล่นในเกมทดสอบกับทีมชุดใหญ่ถึง 9 เกม และลงสนามเต็ม 90 นาทีถึง 2 ครั้งในสวิสคัพฤดูกาลนั้น ในช่วงท้ายของฤดูกาล พ.ศ. 2559-2560 ทีมบาเซิลสามารถคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ และยังคว้าแชมป์สวิสคัพได้อีกด้วย โดยเอาชนะสโมสรฟุตบอลซิยงไปได้ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้สโมสรคว้าดับเบิลแชมป์ได้ในฤดูกาลนั้น นอกจากนี้ ในยูฟ่ายูธลีก พ.ศ. 2559-2560 บาเซิลรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยเอาชนะอาร์เซนอลไปได้ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
2.1.2. ช่วงการยืมตัว (ลูกาโนและซิยง)
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 สโมสรฟุตบอลบาเซิลได้ประกาศปล่อยตัวเจิมเมิร์ตให้ยืมตัวไปยังสโมสรฟุตบอลลูกาโนจนสิ้นสุดฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2016-17 เพื่อให้เขาได้รับประสบการณ์การลงสนามกับทีมชุดใหญ่ เขาได้ลงเล่น 12 นัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยแต่ละนัดลงเล่นเต็ม 90 นาที และช่วยให้ทีมหลีกเลี่ยงการตกชั้นได้
หลังจากหมดสัญญายืมตัว เขากลับมายังสโมสรต้นสังกัด แต่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม บาเซิลประกาศอีกครั้งว่าจะปล่อยตัวเจิมเมิร์ตให้ยืมตัวไปสโมสรฟุตบอลซิยงในฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2017-18 อย่างไรก็ตาม ในเกมแรกที่ลงสนาม เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ ทำให้พลาดการลงสนามตลอดช่วงที่เหลือของปี เขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในปีถัดมา แต่หลังจากลงเล่นเพียง 10 เกม อาการบาดเจ็บก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขาพลาดการลงสนามในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนั้นไป
2.1.3. ช่วงแจ้งเกิดและการเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากหมดสัญญายืมตัวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 เจิมเมิร์ตกลับมายังสโมสรฟุตบอลบาเซิลอีกครั้ง แต่ฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2018-19 ของสโมสรเริ่มต้นไม่ดีนัก สถานการณ์เลวร้ายตั้งแต่ช่วงเกมเตรียมทีม และเมื่อเริ่มต้นฤดูกาลลีก พวกเขาก็แพ้เกมเหย้านัดแรกให้กับสโมสรฟุตบอลซังคท์กัลเลิน หัวหน้าโค้ชราฟาเอล วิกกีถูกปลดทันทีและถูกแทนที่ด้วยมาร์เซล โคเลอร์ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก บาเซิลจบฤดูกาลลีกด้วยตำแหน่งรองแชมป์ โดยมีคะแนนตามหลังแชมป์ยังบอยส์ถึง 20 คะแนน
อย่างไรก็ตาม บาเซิลสามารถคว้าแชมป์สวิสคัพ 2018-19ได้ในฤดูกาล 2018-19 โดยรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ที่สนามสตาดเดอซุสวังก์ดอร์ฟแบร์น พบกับสโมสรฟุตบอลทูน ผลการแข่งขันคือบาเซิลชนะ 2-1 โดยเอร์ไร เจิมเมิร์ตได้ลงสนามในสวิสคัพเพียง 1 นัดในฤดูกาลนี้
เจิมเมิร์ตทำประตูแรกให้กับทีมของเขาในเกมเหย้าที่สนามซังคท์ยาค็อบพาร์ค เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ในการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก 2018-19 รอบเพลย์ออฟนัดแรก ซึ่งเป็นประตูชัยช่วยให้บาเซิลเอาชนะอพอลลอน ลิมาซอลไปได้ 3-2 และเขาทำประตูแรกในสวิสซูเปอร์ลีกได้ในเกมเยือนที่สวิสสปอร์อาเรนา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 โดยเป็นประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 5 ช่วยให้บาเซิลเสมอกับสโมสรฟุตบอลลูเซิร์น 1-1 ฤดูกาลนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับกองหลังตัวกลางรายนี้ เจิมเมิร์ตลงเล่นรวม 31 นัด แบ่งเป็น 24 นัดในลีก, 1 นัดในบอลถ้วย, และ 5 นัดในการแข่งขันยูฟ่า (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และยูฟ่ายูโรปาลีก) โดยทำได้ 2 ประตูในรายการเหล่านี้

มาร์เซล โคเลอร์ยังคงเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ของเอฟซีบีในฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2019-20 ฤดูกาลเริ่มต้นได้ดี แม้บาเซิลจะแพ้เกมเหย้านัดแรกที่ซังคท์ยาค็อบพาร์ค แต่หลังจากผ่านไป 11 รอบ พวกเขาก็นำตารางคะแนน โดยชนะ 8 นัด อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นพวกเขาก็แพ้เกมเยือนติดต่อกันสามนัด ทำให้หลุดไปอยู่อันดับที่สองของตารางก่อนพักฤดูหนาว เมื่อเริ่มต้นครึ่งหลังของฤดูกาล ทีมประสบความพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันให้กับแชมป์สวิตเซอร์แลนด์อย่างยังบอยส์ และสโมสรฟุตบอลซังคท์กัลเลิน ซึ่งหลังจากนั้นก็ขึ้นไปนำจ่าฝูง หลังจากความพ่ายแพ้ในบ้านให้กับสโมสรฟุตบอลทูนซึ่งเป็นทีมท้ายตาราง บาเซิลก็ไม่สามารถตามสองทีมนำได้อีกเลย การแข่งขันทั้งหมดในสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 บาเซิลจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สาม
ในสวิสคัพ 2019-20 บาเซิลสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่พ่ายแพ้ต่อยังบอยส์ 2-1 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2019-20 บาเซิลเริ่มต้นในรอบคัดเลือก ในเกมเลกที่สองของรอบคัดเลือกที่สองในบ้านกับเปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน เจิมเมิร์ตทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ โดยเป็นประตูแรกของนัดที่บาเซิลชนะ 2-1 และผ่านเข้ารอบถัดไป แต่ในรอบนี้พวกเขาก็ตกรอบและไปเล่นต่อในยูฟ่ายูโรปาลีก 2019-20 บาเซิลคว้าแชมป์กลุ่มและผ่านเข้ารอบจากอพอลลอน เอฟซีและไอน์ทรัคต์ฟรังค์ฟวร์ทไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็ตกรอบที่นี่โดยชัคตาร์โดเนตสค์ เจิมเมิร์ตลงเล่นรวม 50 นัด แบ่งเป็น 33 นัดในลีก (ทำได้ 2 ประตู), 3 นัดในบอลถ้วย (ไม่ทำประตู), และ 14 นัดในการแข่งขันยูฟ่า (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และยูฟ่ายูโรปาลีก) โดยทำได้ 1 ประตูในการแข่งขันยูฟ่ากับเปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม สโมสรประกาศว่าชีเรียโก สฟอร์ซา ได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2563 สำหรับฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2020-21 ฤดูกาลเริ่มต้นค่อนข้างสิ้นหวัง โดยแพ้ 4 นัด เสมอ 1 นัด และชนะ 3 นัดจาก 8 เกม แต่พวกเขาก็ฟื้นตัวขึ้น ชนะ 6 นัดจาก 11 เกม ทำให้ทีมขึ้นมาอยู่อันดับที่สองของตารางเมื่อถึงช่วงพักฤดูหนาว หลังจากปีใหม่ สถานการณ์ก็กลับย่ำแย่อีกครั้ง โดยแพ้ 5 นัดและชนะเพียงนัดเดียวจาก 9 เกมแรก ดังนั้น เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2564 ชีเรียโก สฟอร์ซาจึงถูกปลด "เนื่องจากผลงานที่ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา" โดยแพทริก ราห์เมน อดีตผู้ช่วยผู้จัดการทีมเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราว บาเซิลจบฤดูกาลลีกในตำแหน่งรองแชมป์ ในสวิสคัพ 2020-21 ทีมเริ่มต้นในรอบที่สาม และพวกเขาก็พ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ โดยแพ้ 6-2 ให้กับสโมสรฟุตบอลวินเทอร์ทูร์ซึ่งเป็นทีมจากดิวิชันต่ำกว่า ในยูฟ่ายูโรปาลีก 2020-21 ที่ลดจำนวนเกมลง บาเซิลผ่านจากรอบคัดเลือกที่สอง แต่ถูกคัดออกโดยซีเอสเคเอ โซเฟียในรอบเพลย์ออฟ บาเซิลแพ้ 3-1 หลังจากจบเวลาปกติและไม่ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม เจิมเมิร์ตลงสนามรวม 33 นัด แบ่งเป็น 30 นัดในลีก (ทำได้ 1 ประตู), และ 3 นัดในยูฟ่ายูโรปาลีก 2020-21 (ไม่ทำประตู)
แพทริก ราห์เมนยังคงเป็นหัวหน้าโค้ชของบาเซิลสำหรับฤดูกาลสวิสซูเปอร์ลีก 2021-22 ทีมเริ่มต้นฤดูกาลลีกได้ดี เจิมเมิร์ตทำประตูได้ในวันที่สองของการแข่งขัน ซึ่งเป็นประตูที่สามของทีมที่ชนะสโมสรฟุตบอลซิยงไปได้ 6-1 อย่างไรก็ตาม ในเกมเยือนกับซิยง เจิมเมิร์ตถูกไล่ออก ในนาทีที่ 88 ก่อนที่บาเซิลจะทำประตูชัยได้ไม่นาน เขาได้ทำฟาวล์ฉุกเฉินสกัดอาดรินที่หลุดเดี่ยว ทำให้เขาถูกใบแดง เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพของนักเตะรายนี้ หลังจากใบแดงในช่วงกลางเดือนตุลาคม กองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ต้องรอการลงสนามในสวิสซูเปอร์ลีกจนถึงช่วงพักฤดูหนาว แทนที่จะใช้เจิมเมิร์ต โค้ชแพทริก ราห์เมนของเอฟซีบีกลับเลือกใช้ผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างฟาเบียน ฟราย หรือดาวรุ่งอย่างนาสเซอร์ จิกาในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เจิมเมิร์ตกล่าวในการสัมภาษณ์ว่าเขาจะยินดีกับการย้ายไปเล่นในต่างประเทศ
สโมสรประกาศเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ว่าเจิมเมิร์ตได้ย้ายไปสโมสรบาเลนเซีย ซีเอฟของประเทศสเปน ระหว่างปี พ.ศ. 2559 ถึง 2560 และอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ถึง 2565 เจิมเมิร์ตลงเล่นรวม 139 นัดให้กับบาเซิลและทำได้ 7 ประตู โดยเป็นการลงเล่นในสวิสซูเปอร์ลีก 101 นัด, ในสวิสคัพ 8 นัด, และในการแข่งขันยูฟ่า 30 นัด (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่ายูโรปาลีก และยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก) เขาทำได้ 5 ประตูในลีกภายในประเทศ และ 2 ประตูในการแข่งขันยุโรป
2.2. บาเลนเซีย ซีเอฟ
เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565 เจิมเมิร์ตได้ย้ายไปเล่นในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในอาชีพ โดยเซ็นสัญญาสี่ปีครึ่งกับบาเลนเซีย ซีเอฟในลาลิกา ด้วยค่าตัวประมาณ 800.00 K EUR เจิมเมิร์ตปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างช้าๆ แต่แน่นอน โดยได้ลงเล่น 8 นัดในฤดูกาลลาลิกา 2021-22 และ 23 นัดในฤดูกาลลาลิกา 2022-23 พร้อมทำได้ 1 ประตูในลีก
2.3. ยืมตัวไปเอฟซี น็องต์
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566 สโมสรสโมสรฟุตบอลน็องต์ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับบาเลนเซีย ซีเอฟเรื่องการยืมตัวเจิมเมิร์ตสำหรับฤดูกาลลีกเอิง 2023-24 โดยสัญญายืมตัวมีเงื่อนไขในการซื้อขาด
2.4. ยืมตัวไปเรอัลบายาโดลิด
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เจิมเมิร์ตได้ย้ายไปร่วมทีมเรอัลบายาโดลิดในลีกสูงสุดของสเปนด้วยสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลาหนึ่งปีสำหรับฤดูกาล พ.ศ. 2567-2568
3. อาชีพระดับทีมชาติ
เจิมเมิร์ตเกิดในไทรน์เฟลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีเชื้อสายตุรกี เขาได้ลงเล่นในการแข่งขันระดับนานาชาติหลายนัดให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในระดับเยาวชน ตั้งแต่ทีมU15, U16, และ U17 เขาประเดิมสนามให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ U18 ในตำแหน่งกองหลังตัวกลางเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558 โดยทีมชนะเดนมาร์ก U19 ไป 2-1 ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ U19 และเป็นกัปตันทีมพาทีมชนะสโลวาเกีย U19 ไป 1-0 นอกจากนี้เขายังเคยลงเล่นให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีอีกด้วย
เขาประเดิมสนามให้กับฟุตบอลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ชุดใหญ่เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก พบกับฟุตบอลทีมชาติยิบรอลตาร์ โดยเขาถูกส่งลงมาแทนมานูเอล อคันจิในนาทีที่ 65 ในปี พ.ศ. 2564 เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ซึ่งทีมสามารถผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้ และเขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในฟุตบอลโลก 2022 อีกด้วย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 14 นัด โดยยังไม่สามารถทำประตูได้
4. สถิติอาชีพ
สถิติการลงสนามและทำประตูของเอร์ไร เจิมเมิร์ตกับสโมสรและทีมชาติ มีดังนี้ (ข้อมูลอัปเดต ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567)
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ | การแข่งขันยุโรป | อื่นๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
บาเซิล | 2015-16 | สวิสซูเปอร์ลีก | 5 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | - | 5 | 0 | |
2016-17 | สวิสซูเปอร์ลีก | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | - | 2 | 0 | ||
2018-19 | สวิสซูเปอร์ลีก | 24 | 1 | 1 | 0 | 5 | 1 | - | 30 | 2 | ||
2019-20 | สวิสซูเปอร์ลีก | 33 | 2 | 3 | 0 | 14 | 1 | - | 50 | 3 | ||
2020-21 | สวิสซูเปอร์ลีก | 30 | 1 | 0 | 0 | 3 | 0 | - | 33 | 1 | ||
2021-22 | สวิสซูเปอร์ลีก | 9 | 1 | 2 | 0 | 8 | 0 | - | 19 | 1 | ||
รวม | 101 | 5 | 8 | 0 | 30 | 2 | - | 139 | 7 | |||
ลูกาโน (ยืมตัว) | 2016-17 | สวิสซูเปอร์ลีก | 12 | 0 | 0 | 0 | - | - | 12 | 0 | ||
ซิยง (ยืมตัว) | 2017-18 | สวิสซูเปอร์ลีก | 12 | 0 | 0 | 0 | - | - | 12 | 0 | ||
บาเลนเซีย | 2021-22 | ลาลิกา | 8 | 0 | 1 | 0 | - | - | 9 | 0 | ||
2022-23 | ลาลิกา | 23 | 1 | 1 | 0 | - | 1 | 0 | 25 | 1 | ||
รวม | 31 | 1 | 2 | 0 | - | 1 | 0 | 34 | 1 | |||
น็องต์ (ยืมตัว) | 2023-24 | ลีกเอิง | 25 | 2 | 2 | 0 | - | - | 27 | 2 | ||
บายาโดลิด (ยืมตัว) | 2024-25 | ลาลิกา | 12 | 0 | 1 | 0 | - | - | 13 | 0 | ||
รวมตลอดอาชีพ | 193 | 8 | 13 | 0 | 30 | 2 | 1 | 0 | 237 | 10 |
5. เกียรติประวัติ
เอร์ไร เจิมเมิร์ตได้รับรางวัลและเกียรติประวัติทั้งในระดับสโมสรและรางวัลส่วนตัวดังต่อไปนี้
สโมสรฟุตบอลบาเซิล U18
- สวิสคัพ U-18: 2014-15
สโมสรฟุตบอลบาเซิล
- สวิสซูเปอร์ลีก: 2015-16, 2016-17
- สวิสคัพ: 2016-17, 2018-19
รางวัลส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีสวิสซูเปอร์ลีก: 2019-20, 2020-21