1. ชีวิตช่วงต้น
อัลเฟรท ชเลปปี้เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1898 เขามีน้องชายชื่อ ไฮน์ริช ชเลปปี้ ซึ่งเป็นนักบอบสเลดและผู้บริหารกีฬาเช่นเดียวกับเขา
2. อาชีพนักบอบสเลด
อัลเฟรท ชเลปปี้เป็นนักบอบสเลดชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงในช่วงต้นทศวรรษ 1920 โดยมีผลงานสำคัญในการแข่งขันระดับสูงสุด โดยเฉพาะการคว้าเหรียญโอลิมปิก
2.1. โอลิมปิกฤดูหนาวชาโมนิกซ์ 1924
ในโอลิมปิกฤดูหนาว 1924 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองชาโมนิกซ์ ประเทศฝรั่งเศส อัลเฟรท ชเลปปี้ได้เข้าร่วมการแข่งขันบอบสเลดประเภทสี่คน และสามารถคว้าเหรียญทองอันทรงเกียรติมาได้สำเร็จ. ทีมบอบสเลดของสวิสที่ชนะการแข่งขันในครั้งนั้นมาจากเมืองไลแซง ประกอบด้วยนักกีฬา ได้แก่ แชเรอร์, เนอเวอ, และพี่น้องชเลปปี้ ซึ่งรวมถึงอัลเฟรทและน้องชายของเขา ไฮน์ริช ชเลปปี้ การคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาบอบสเลดสวิตเซอร์แลนด์

3. บทบาทในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว
อัลเฟรท ชเลปปี้ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทผู้บริหารกีฬาที่สำคัญในฐานะประธานร่วมของคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว 1948 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแซ็งมอริดส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาดำรงตำแหน่งนี้ร่วมกับน้องชาย ไฮน์ริช ชเลปปี้ โดยมีวาระการทำงานตั้งแต่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 จนถึง 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948
โอลิมปิกฤดูหนาว 1948 มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งแรกที่จัดขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ได้ส่งผลให้การแข่งขันก่อนหน้านี้ในปี ค.ศ. 1940 และ 1944 ต้องถูกยกเลิกไป. การที่อัลเฟรทและไฮน์ริช ชเลปปี้ ได้รับบทบาทผู้นำในการจัดงานโอลิมปิกหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้น เป็นการรับช่วงต่อจากสถานการณ์ที่เคยเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจในระบอบการปกครองที่เป็นชนวนสงคราม เช่น โยเซฟ เกิบเบิลส์ และ คาร์ล ริตเตอร์ ฟอน ฮาลท์ ซึ่งเคยมีบทบาทในการจัดการแข่งขันที่ถูกยกเลิกไป.
การเป็นผู้นำของพี่น้องชเลปปี้ในบริบทที่ท้าทายเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่งสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านกีฬา. พวกเขาต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรและความยากลำบากจากการทำลายล้างของสงคราม แต่ยังคงสามารถจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามมาตรฐานโอลิมปิกได้ ซึ่งแสดงออกถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการส่งเสริมค่านิยมของประชาธิปไตย, ความสามัคคี, และการรวมตัวกันของประชาคมโลกผ่านเวทีแห่งกีฬา
4. การเสียชีวิต
อัลเฟรท ชเลปปี้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1981 สิริอายุได้ 83 ปี
5. การประเมินและมรดก
อัลเฟรท ชเลปปี้ทิ้งมรดกที่สำคัญไว้ในประวัติศาสตร์กีฬาในฐานะทั้งนักบอบสเลดผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับโอลิมปิก และเป็นผู้บริหารกีฬาที่มีวิสัยทัศน์และอุทิศตน. การคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกฤดูหนาว 1924 ได้ตอกย้ำความสามารถของเขาในฐานะนักกีฬา และสร้างเกียรติยศให้กับประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากความสำเร็จในฐานะนักกีฬาแล้ว บทบาทของเขาในการเป็นประธานร่วมคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว 1948 นั้นเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการฟื้นฟูขบวนการกีฬาโอลิมปิกหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่นำมาซึ่งความเสียหายและความแตกแยกอย่างรุนแรง. การเป็นผู้นำของเขาในสถานการณ์ที่ท้าทายดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสามารถกลับมาเป็นศูนย์รวมของประชาคมโลกได้อีกครั้ง แต่ยังเป็นการส่งเสริมค่านิยมพื้นฐานของสันติภาพ, ความเข้าใจระหว่างประเทศ, และประชาธิปไตย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของขบวนการโอลิมปิก
มรดกของอัลเฟรท ชเลปปี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ผลงานส่วนตัวในฐานะนักกีฬา แต่ยังรวมถึงบทบาทของเขาในการเป็นผู้ประสานงานสำคัญที่ช่วยให้โลกได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งผ่านเวทีกีฬา แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนความก้าวหน้าทางสังคมและมนุษยธรรมในช่วงเวลาที่สำคัญและเปราะบางของประวัติศาสตร์โลก