1. ภาพรวม
นิคลัส เอคเบิร์ก หรือชื่อเต็มว่า ลาร์ส นิคลัส เอคเบิร์ก (Lars Niclas Ekbergลาร์ส นิคลัส เอคเบิร์กภาษาสวีเดน) เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1988 เป็นนักกีฬาแฮนด์บอลอาชีพชาวสวีเดน ผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวา ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรอีสตาดส์ ไอเอฟ ในลีกสวีเดน และเป็นอดีตสมาชิกทีมชาติสวีเดน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ทำประตูที่ยอดเยี่ยมและทำลายสถิติมากมายให้กับสโมสรทีเอชดับเบิลยู คีล ในบุนเดสลีกาของเยอรมนี
ตลอดอาชีพการงาน เอคเบิร์กประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีเอชดับเบิลยู คีล ที่เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมันหลายสมัย, แชมป์ดีเอชบี-โพคาล, และแชมป์อีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีก ในปี ค.ศ. 2020 นอกจากนี้ เขายังสร้างสถิติเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรในทุกรายการแข่งขันอีกด้วย ในระดับทีมชาติ เอคเบิร์กเป็นส่วนสำคัญของทีมชาติสวีเดน โดยคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในทัวร์นาเมนต์นั้น รวมถึงคว้าแชมป์ชิงแชมป์ยุโรปในปี ค.ศ. 2022 ซึ่งเขาได้ทำประตูจุดโทษที่สำคัญในช่วงท้ายเกมตัดสินแชมป์ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบอย่างที่ดีและมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการแฮนด์บอลทั้งในสวีเดนและเยอรมนี
2. ชีวิต
ชีวิตของนิคลัส เอคเบิร์กโดดเด่นด้วยเส้นทางอาชีพแฮนด์บอลที่ยาวนานและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงช่วงเวลาสำคัญที่สะท้อนถึงการตัดสินใจส่วนตัวและผลกระทบต่ออาชีพของเขา
2.1. วัยเด็กและช่วงต้นอาชีพ
นิคลัส เอคเบิร์ก เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1988 เขาเริ่มต้นอาชีพนักแฮนด์บอลกับสโมสรไอเอฟเค อีสตาด ในฤดูกาล 2008-2009 เขาทำประตูได้เป็นอันดับสองในลีกสวีเดน และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "Årets Komet" (Årets Kometดาวรุ่งแห่งปีภาษาสวีเดน) ซึ่งเป็นการยอมรับถึงความสามารถที่โดดเด่นของเขาในฐานะผู้เล่นหน้าใหม่
2.2. อาชีพกับสโมสร
หลังจากประสบความสำเร็จกับไอเอฟเค อีสตาด เอคเบิร์กได้ย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่างอีสตาดส์ ไอเอฟ ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2010 เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรเอจี โคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก ซึ่งที่นั่นเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยคว้าแชมป์ลีกเดนมาร์กและแชมป์เดนิช คัพได้ถึงสองสมัยติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อสโมสรประสบปัญหาทางการเงินและล้มละลายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2012 เอคเบิร์กก็ถูกยกเลิกสัญญา
หลังจากนั้น เขาได้ย้ายไปร่วมทีมทีเอชดับเบิลยู คีล ในเยอรมนี ด้วยสัญญาจนถึงปี ค.ศ. 2015 ซึ่งต่อมาได้ขยายสัญญาไปจนถึงปี ค.ศ. 2018 การร่วมทีมทีเอชดับเบิลยู คีล ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา ที่นี่เขาคว้าแชมป์ดีเอชบี-โพคาล ในปี ค.ศ. 2013, 2017 และ 2019 และแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมัน ในปี ค.ศ. 2013, 2014, 2015, 2020, 2021 และ 2023 นอกจากนี้ เขายังคว้าแชมป์อีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2019-2020 โดยทำได้ 15 ประตูในรอบไฟนอลโฟร์ และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนั้นด้วยจำนวน 85 ประตู
ในฤดูกาล 2019-2020 เอคเบิร์กทำประตูในบุนเดสลีกาครบ 1,000 ประตู และทำลายสถิติของนิโคไล จาคอบเซน ในฐานะผู้ทำประตูจากลูกจุดโทษสูงสุดของสโมสร ด้วยลูกที่ 390 ในฤดูกาล 2020-2021 เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสี่ของทีเอชดับเบิลยู คีล โดยทำประตูแซงหน้าอูเว ชเวนเกอร์ ที่ 1,224 ประตู ในรอบที่ 33 ของฤดูกาลเดียวกัน เขายังทำประตูรวม 2,000 ประตูในทุกรายการแข่งขันให้กับสโมสรได้สำเร็จ ในรอบที่ 4 ของฤดูกาล 2021-2022 เขาทำประตูแซงหน้าโค้ชของเขาเองอย่างฟิลิป ยิชา (1,319 ประตู) ขึ้นเป็นอันดับสองของผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในลีกของสโมสร และในเกมถัดมา เขาก็ทำได้ 11 ประตูในนัดที่พบกับจีดับเบิลยูดี มินเดิน เพื่อทำลายสถิติ 1,332 ประตูในลีกของแมกนัส วิสลันเดอร์ ขึ้นเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรในลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2024 ในการแข่งขันอีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีก กับออลบอร์ก ฮอนด์โบลด์ เขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรในทุกรายการแข่งขัน ด้วยจำนวน 2,125 ประตู โดยเป็นประตูในลีก 1,776 ประตู
ในปี ค.ศ. 2023 หลังจาก 12 ปีกับทีเอชดับเบิลยู คีล เอคเบิร์กได้กลับมายังสวีเดนเพื่อร่วมทีมอีสตาดส์ ไอเอฟ อีกครั้งด้วยสัญญา 3 ปี ซึ่งเป็นสโมสรบ้านเกิดของเขา
2.3. อาชีพกับทีมชาติ
เอคเบิร์กเล่นให้กับทีมชาติสวีเดนชุดเยาวชนมาตั้งแต่ต้น โดยลงสนาม 18 นัดให้กับทีมชาติสวีเดนชุดอายุไม่เกิน 19 ปี และ 29 นัดให้กับทีมชาติสวีเดนชุดอายุไม่เกิน 21 ปี การลงสนามในระดับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 ในการแข่งขันกับตุรกี
เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสวีเดนที่คว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอน โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในทัวร์นาเมนต์นั้นด้วยจำนวน 50 ประตู ระหว่างปี ค.ศ. 2017 ถึง 2019 เขาดำรงตำแหน่งกัปตันทีมของทีมชาติสวีเดน ก่อนที่จะพักจากการรับผิดชอบนี้และทีมชาติชั่วคราวด้วยเหตุผลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว
เขายังคงเป็นตัวแทนของสวีเดนในการแข่งขันโอลิมปิก ที่โตเกียว และเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสวีเดนที่คว้าแชมป์ชิงแชมป์ยุโรป ในปี ค.ศ. 2022 แม้ว่าเขาจะพลาดการแข่งขันส่วนใหญ่เนื่องจากผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก แต่เขาก็สามารถกลับมาร่วมทีมได้ในรอบชิงชนะเลิศ ในนัดชิงชนะเลิศกับสเปน ขณะที่สกอร์เสมอกัน 26-26 สวีเดนได้ลูกจุดโทษในช่วงท้ายเกม ซึ่งสามารถตัดสินผลการแข่งขันได้ เอคเบิร์กรับหน้าที่ยิงจุดโทษและทำประตูได้สำเร็จ ทำให้สวีเดนคว้าเหรียญทองมาครองได้
ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปี ค.ศ. 2023 เขาจบอันดับที่ 4 กับทีมชาติสวีเดน และได้รับเลือกให้ติดทีมออลสตาร์ของทัวร์นาเมนต์ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 เขาได้ประกาศอำลาทีมชาติ แต่ต่อมาได้กลับมาเล่นอีกครั้งสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปี ค.ศ. 2025 อย่างไรก็ตาม สวีเดนทำผลงานได้น่าผิดหวังในทัวร์นาเมนต์นั้น โดยจบอันดับที่ 14 หลังจากแพ้บราซิลและนอร์เวย์ และเสมอโปรตุเกส
ตลอดอาชีพกับทีมชาติ นิคลัส เอคเบิร์ก ลงสนามรวม 210 นัด และทำได้ 841 ประตู
3. สถิติและรางวัลที่สำคัญ
นิคลัส เอคเบิร์ก สร้างสถิติและได้รับรางวัลมากมายตลอดอาชีพการเล่นแฮนด์บอล ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถอันโดดเด่นของเขาในฐานะผู้ทำประตูและผู้เล่นคนสำคัญ
3.1. สถิติระดับสโมสร
นิคลัส เอคเบิร์ก สร้างสถิติการทำประตูที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรทีเอชดับเบิลยู คีล ในบุนเดสลีกาเยอรมัน เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรในทุกรายการแข่งขันด้วยจำนวน 2,125 ประตู และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในลีกของสโมสรด้วยจำนวน 1,776 ประตู นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ทำประตูจากลูกจุดโทษสูงสุดของสโมสรอีกด้วย
สถิติการลงสนามและทำประตูในบุนเดสลีกาเยอรมันกับทีเอชดับเบิลยู คีล:
ฤดูกาล | ทีม | ลีก | เกม | ประตู | จุดโทษ | ไม่ใช่จุดโทษ |
---|---|---|---|---|---|---|
2012/13 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 31 | 94 | 36 | 58 |
2013/14 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 34 | 98 | 19 | 79 |
2014/15 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 36 | 103 | 5 | 98 |
2015/16 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 30 | 140 | 38 | 102 |
2016/17 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 31 | 137 | 41 | 96 |
2017/18 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 34 | 171 | 84 | 87 |
2018/19 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 33 | 187 | 89 | 98 |
2019/20 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 26 | 164 | 104 | 60 |
2020/21 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 33 | 205 | 98 | 107 |
2021/22 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 34 | 189 | 99 | 90 |
2022/23 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 32 | 137 | 73 | 64 |
2023/24 | ทีเอชดับเบิลยู คีล | บุนเดสลีกา | 34 | 151 | 62 | 89 |
2012-2024 | รวม | บุนเดสลีกา | 388 | 1776 | 748 | 1028 |
3.2. สถิติระดับทีมชาติ
เอคเบิร์กมีสถิติการลงสนามให้กับทีมชาติสวีเดนชุดใหญ่รวม 210 นัด และทำได้ 841 ประตู เขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ด้วยจำนวน 50 ประตู
3.3. รางวัลระดับทีม
- บุนเดสลีกาเยอรมัน: แชมป์ปี ค.ศ. 2013, 2014, 2015, 2020, 2021 และ 2023
- ดีเอชบี-ซูเปอร์คัพ: แชมป์ปี ค.ศ. 2014, 2015, 2020, 2021, 2022 และ 2023
- ดีเอชบี-โพคาล: แชมป์ปี ค.ศ. 2013, 2017, 2019 และ 2022
- ลีกเดนมาร์ก: แชมป์ปี ค.ศ. 2011 และ 2012
- เดนิช คัพ: แชมป์ปี ค.ศ. 2011 และ 2012
- อีเอชเอฟ คัพ: แชมป์ปี ค.ศ. 2019
- อีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีก: แชมป์ปี ค.ศ. 2020
- ชิงแชมป์ยุโรป: แชมป์ปี ค.ศ. 2022
- โอลิมปิก: เหรียญเงินปี ค.ศ. 2012
3.4. รางวัลส่วนบุคคล
- ทีมออลสตาร์ตำแหน่งปีกขวาของการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปี ค.ศ. 2023
- ผู้ทำประตูสูงสุดของการแข่งขันโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2012
- ผู้ทำประตูสูงสุดของอีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019-2020
- นักแฮนด์บอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดน ฤดูกาล 2014-2015
- "Årets Komet" (Årets Kometดาวรุ่งแห่งปีภาษาสวีเดน) ในวงการแฮนด์บอลสวีเดน
4. ลักษณะการเล่นและจุดเด่น
นิคลัส เอคเบิร์ก เป็นที่รู้จักจากสไตล์การเล่นที่โดดเด่นในตำแหน่งปีกขวา โดยมีจุดเด่นที่สำคัญคือความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งทำให้เขาสร้างสถิติเป็นผู้ทำประตูจากลูกจุดโทษสูงสุดให้กับสโมสรทีเอชดับเบิลยู คีล นอกจากนี้ ความสามารถในการทำประตูที่หลากหลายและสัญชาตญาณในการหาพื้นที่ยังทำให้เขากลายเป็นผู้สร้างสถิติการทำประตูมากมายในประวัติศาสตร์ของสโมสรและทีมชาติ
5. ชีวิตส่วนตัวและผลกระทบ
ชีวิตส่วนตัวของนิคลัส เอคเบิร์กยังคงส่งผลต่อเส้นทางอาชีพของเขา เช่น การตัดสินใจพักจากการเล่นทีมชาติชั่วคราวในปี ค.ศ. 2019 ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของชีวิตส่วนตัวต่อการตัดสินใจในอาชีพนักกีฬา
ในด้านผลกระทบและอิทธิพลต่อวงการแฮนด์บอล เอคเบิร์กได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะผู้เล่นและบุคคล เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นหลังจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสวีเดนและเยอรมนี ด้วยผลงานที่โดดเด่นและสถิติที่น่าทึ่ง เขาส่งเสริมคุณค่าเชิงบวกผ่านกีฬา ทั้งความมุ่งมั่น ความเป็นมืออาชีพ และการทำงานหนัก ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาวงการแฮนด์บอลให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
6. การอำลาวงการและช่วงเวลาหลังแขวนมือ
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 นิคลัส เอคเบิร์กได้ประกาศอำลาทีมชาติสวีเดนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เขากลับมาเล่นให้กับทีมชาติอีกครั้งสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลก แม้ว่าผลงานของทีมจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ตาม
ก่อนหน้านั้น ในปี ค.ศ. 2023 หลังจากใช้เวลา 12 ปีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับสโมสรทีเอชดับเบิลยู คีล ในเยอรมนี เอคเบิร์กได้ตัดสินใจกลับมายังสวีเดนเพื่อเล่นให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขาอย่างอีสตาดส์ ไอเอฟ ด้วยสัญญา 3 ปี ซึ่งเป็นการปิดฉากช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ในบุนเดสลีกาและเป็นการกลับคืนสู่รากเหง้าของเขาในช่วงท้ายอาชีพนักกีฬา
7. การประเมินและมรดก
นิคลัส เอคเบิร์ก ได้ทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ไว้ในวงการแฮนด์บอลในฐานะหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งปีกขวาที่ทำประตูได้มากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของเขา คุณูปการของเขาต่อสโมสรทีเอชดับเบิลยู คีล นั้นชัดเจนจากสถิติการทำประตูที่ทำลายสถิติมากมายและถ้วยรางวัลจำนวนมากที่เขาช่วยให้ทีมคว้ามาได้ เช่น แชมป์บุนเดสลีกาและอีเอชเอฟ แชมเปียนส์ลีกในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร เขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตำแหน่งของเขา
ในระดับทีมชาติ บทบาทของเอคเบิร์กในการคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกและแชมป์ชิงแชมป์ยุโรป รวมถึงการเป็นกัปตันทีมและผู้ทำประตูสูงสุดในทัวร์นาเมนต์สำคัญ ได้ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะตำนานของทีมชาติสวีเดน ความมุ่งมั่น ความแม่นยำในการทำประตู และความสามารถในการตัดสินเกมในช่วงเวลาสำคัญ ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ เอคเบิร์กไม่เพียงแต่เป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นแบบอย่างของความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเท ซึ่งเป็นมรดกที่สำคัญที่เขาทิ้งไว้ให้กับวงการแฮนด์บอลโลก